Tuesday, August 28, 2007

การสร้างบทความ

Chapter 3 (continue)
Creating Content – Profreading
1
.English is Not My First Language

ภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ภาษาที่หนึ่งของ John Chow เขาแทบจะสอบไม่ผ่านภาษาอังกฤษในระดับ
โรงเรียนด้วยซ้ำ ถ้าอาจารย์ของเขารู้ คงจะช็อก เมื่อรู้ว่า John Chow หาเลี้ยงชีพจากการเขียนหนังสือ มีคนเก่งภาษาอังกฤษกว่าเขามากมาย มีแต่เขา ที่หารายได้จากการเขียนภาษาอังกฤษ
2.My Proofing Steps
John Chow ชอบใช้ Firefox สำหรับการเขียนโพส เพราะว่า Firefox ช่วยเขาตรวจแก้คำสะกด
และเขายัง copy มาลงใน MS Word เพื่อเช็คคำและไวยากรณ์อีกครั้ง เขายังชอบที่จะ save และ แก้ไขใน Wordpress และ Preview ก่อนที่จะเผยแพร่ (ใน Wordpress มี Preview เหมาะสำหรับการดูการแสดงผลและรูปแบบ และ ยังเหมาะสำหรับผู้ที่เขียนโดยใช้ภาษา html ) John Chow จะอ่านและตรวจทาน 3-6 ครั้ง ก่อนที่จะใช้ MS Word เช็คคำและ grammar
John Chow ให้ความสนใจกับความต่อเนื่องของบทความ การกระโดดไปมาจะทำให้ยากต่อการติดตาม
3.Correcting Mistake after an Article is Live
เมื่อคุณพบว่ามีข้อผิดพลาดจากการโพส ให้จัดการในทันที อย่าเบื่อหน่ายถ้ามีผู้ Comment คุณ
เพราะเขาเหล่านั้นพยายามที่จะช่วยคุณ ทำให้ถูกต้องและขอบคุณเขาเหล่านั้น
John Chow พิสูจน์แล้วว่า คุณไม่จำเป็นต้องเก่งกล้าในภาษาอังกฤษ ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ ที่คุณต้องมี คือ การเขียนที่ดีและบอกประเด็นให้ตรงกับที่คุณต้องการ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจ

Five Things To Do When You Have Nothing To Blog About
1. Check the comment
เมื่อ John Chow ว่างจากการเขียน Blog เขาจะไปอ่านใน comment ใน Blog ของเขา ซึ่งเขาสามารถหา Idea ที่จะเขียนได้จาก Comment เหล่านั้น
2. Check Out Other Blogs in Your Community
มี Blog อยู่มากกว่า 60 ล้าน Blogs จะต้องมีบ้างที่คุณจะได้สิ่งดีๆ ที่คุณสามารถสร้าง Ideaนำมาเขียนได้ คุณสามารถสร้าง Idea ดีๆ จาก Blogs ที่พูดเรื่องที่เกี่ยวกับหรือคล้ายกับเรื่องที่คุณเขียนหรือไปดูว่า ผู้ที่เข้ามา comment คุณมี Site อยู่หรือไม่ ถ้ามีเขามีความคิดดีๆอะไร เป็นธรรมดา Bloggers ทุกคนต้องการโพสเรื่อง hot ให้เร็วที่สุด มีอะไรที่เขาข้ามไป ทั้งๆที่มีคุณค่า เนื่องจากความรีบร้อนที่จะโพส คุณสามารถจับ Topic นั้นสร้างรายละเอียดที่สมบูรณ์ได้
3. Look In Your Archives
ถ้าโพสของคุณครบถ้วนและเหมาะสมแล้ว ให้คุณลองไปดูโพสเก่าของคุณ ว่าสามารถนำมา Update และโพสใหม่ได้หรือไม่ หรือเปลี่ยนวันที่โพสก็ได้
4. Look At YouTube
ถ้าทุกอย่างที่ทำมาแล้วล้มเหลว คุณลองเข้าไปที่ YouTube หรือ Site ที่มี Video Sharing ค้นหาอันที่น่าขบขันหรือที่สร้างความน่าสนใจแล้วคุณก็โพส ความคิดเห็นของคุณไป

Chapter 4 Must Have Wordpress Stuff
Wordpress เป็น Blog ที่มี software ที่ดีและมี Plugins หลายตัวไว้ใช้งาน เป็น Software ที่ดีที่สุดในการสร้างบล็อก เท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน
1. Akismet Comment Spam Killer
Plugin ตัวนี้ จะมาพร้อมกับ Wordpress ในตอนติดตั้ง เป็น Plugin ที่ใช้ในการกำจัด Comment Spam การติดตั้งให้เข้าไปที่ Wordpress Control Panel เข้าไปที่ Plugin Section และคลิก Activate การจะใช้ Software นี้ เราต้องมี API Key ซึ่งเราจะได้รับตอนสมัคร Wordpress
2. Subscribe to Comment 2.0
บอกรับการเป็นสมาชิก Comment 2.0 และ Add a “Notify Me of Followup Comment via E-mail” และใส่เครื่องหมายยอมรับ เมื่อมีคนเข้ามา Comment ใน Blog ระบบจะส่ง E-mail มาเตือน ติดตั้ง Comment 2.0
3. Show Top Commentators
Plugin ตัวนี้ จะแสดงสถิติการ Comment จึงเป็นการให้รางวัลกับผู้ที่เข้ามา Comment หลังจาก John Chow ติดตั้ง Show Top Commentators ทำให้ Blog ของเขามีจำนวนผู้เข้ามาสูงขึ้น ติดตั้ง Show Top Commentators หรือต้องการดูรายละเอียด
4. Brain’s Threaded Comments
Plugin ตัวนี้เพิ่ม “Reply to this Comment” ดังนั้นเมื่อคุณ คลิกที่ Reply Link จะปรากฏขึ้น ทำให้เราไม่ต้อง Scroll Down
5. Sidebar Widget
Sidebar Widget เป็น 1 ใน Plugin ที่ดีที่สุดสำหรับ Wordpress สำหรับใช้ในการสร้าง Sidebar ทำให้เราไม่ต้องแก้ไข PHP คุณเพียง Drag และวางหัวข้อลงใน Sidebar แต่ Wordpress Theme ของคุณต้องรองรับ Sidebar Widget ด้วย
6. Executable PHP widget
Plugin ตัวนี้ใช้สำหรับการ Run PHP Code ใน Sidebar Widget เหมาะสำหรับการใช้โปรแกรม Ads Network ของ Text Link Ads ที่ต้องติดตั้ง PHP
7. Recent Comments
เป็น Plugin ที่แสดง Recent Comment ช่วยให้ง่ายในการดู Blog Page View
8. Digg This
Plugin ตัวนี้จะใช้สำหรับการตรวจสอบ Incoming Links ของ Digg.com และการ Link ไปยังเจ้าของ Comment และจำนวนของผู้ที่เข้ามาใน Site นั้น ติดตั้ง Digg
9. Adsense Deluxe
Plugin ตัวนี้ใช้รองรับ Google AdSense สิ่งที่น่าสนใจ คือ การจำกัดจำนวน Google AdSense ไส้ไมเกิน 3 ตามที่ Google กำหนด Sign Up
10. Text Link Ads v2
Plugin รองรับ Text Link Ads Ads คุณต้อง Sign up และได้รับอนุญาตเป็น Text Link Ads Publisher ก่อน TLAds เป็น Plugin ที่สร้างรายได้จำนวนมากให้กับ John Chow
Plugin ของ Wordpress เพื่อนๆสามารถ Download ได้จาก เว็บคนไทยแปลให้เรียบร้อย ดีมากๆ ครับ

Stand Out From The Crowd With A Favicon
Blogs ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ Favicon.ico file และจบลงด้วยการ Default แทน Favicon.ico file เป็นหนทางหนึ่งในการทำให้ Blog ของคุณ อยู่ใน Bookmarks คือ การสร้าง Custom icon วิธีสร้างนั้น ให้คุณสร้างภาพที่เกี่ยวกับ Site ของคุณเป็น GIF หรือ PNG ขนาด 16 x 16 Pixels แล้ว Save as เป็น Favicon.ico file แล้ว Upload เข้าไปใน Site’s Root Folder และใส่ Code ระหว่าง Head Tags
แล้วเปลี่ยน URL เป็น URL ของคุณ ดังนั้น เมื่อไรก็ตามที่คนเข้ามาใน Blog ของคุณ เขาจะเห็น Icon ของคุณ ถัดจาก Address Line และ Icon นี้จะโชว์ใน Bookmark ของผู้เข้ามาเยี่ยมชม ฉะนั้น ถึงแม้ว่าเขาคนนั้นจะมี รายการมากมายใน Bookmark ของเขา แต่ของคุณเด่นกว่าคนอื่นๆ
Time Stamping Your Posts
การโพส โดยทั่วไปจะเกิดเมื่อเรา คลิก Publish แต่การติดตั้ง Time Stamping Your Posts นั้น เราจะใส่ข้อมูลไว้และตั้งเวลาให้โพสตามเวลาที่เรากำหนด
วิธีใช้งาน
1. เขียนบทความที่ต้องการโพส แต่ยังไม่ Publish
2.ตั้งเวลาใน Time Stamping Your Posts
3.คลิก Publish
ตั้งแต่ John Chow ได้ติดตั้ง Plugin ตัวนี้ ทำให้ John Chow สามารถโพสได้มากถึง 5 ครั้งต่อ
วัน โดยการจัดคิวของบทความไว้ล่วงหน้า
Using SEO Friendly URLs For Better Search Engine
Wordpress ตามปกติจะเป็น Dynamic URL คือ เรียงลำดับโพสเป็นหมายเลข เช่น www.johnchow.com/?p=1508 ที่ Googlebot มองไม่ออกว่าบทความนั้นคืออะไร ต่างจาก www.johnchow.com/new-ad-network-auctionad/ ซึ่งทำให้ Blogs ของ John Chow อยู่ในอันดับดีๆของ Google
การสร้าง SEO Friendly URL ใน Wordpress ไปที่ wordpress control Panel เลือก Permalinks ใน Permalink มี Choice ให้เลือก 4 ข้อ คือ Default, Date and Name Base, Numeric และ Custom คุณควรเลือก Date and Name Base หรือ Custom เพราะเป็น Most Search Engine Friendly สำหรับ John Chow เลือก Custom เพราะ URL แสดงชื่อ Domain Name และ ชื่อ ผู้โพส (เพราะเขาขายความเป็น John Chow)
Setting The Preferenced Domain
โดยทั่วไป เว็บมี Address เป็น www และ ไม่มี www เวลา Search Engine ชี้ไปที่ ชื่อเฉพาะ เช่น Johnchow นั้น Search Engine จะมองแยกกัน โดยเฉพาะ Google เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว เราควรแก้ไขปัญหานี้ โดยการตั้งคำสั่งเพื่อบอก Search Engine
วิธี เข้าไปใน Google Webmaster Tools และตั้ง Address ใหม่ โดยเลือก Domain เพียงอันเดียว
Adding a 301 Redirect
หลังจากคุณ set Preferenced Domain แล้ว คุณควรบังคับให้ทุกๆคนใช้ Domain นี้ ด้วย a 301 Redirect วิธีการ ให้สร้าง .htaccess file หรือ แก้ไขจาก code ของ John Chow
RewriteEngine on
RewriteCond%{HTTP_HOST} !^(.*)\.johnchow\.com$[NC]
RewriteRule^(.*)$http://www.johnchow.com/$1 [R=301,L]
หมายเหตุ .htaccess file สนับสนุนเฉพาะใน Linux servers with Apache Mod-Rewrite module

Sunday, August 26, 2007

Make Money online With John Chow dot Com

Chapter 3 continue
Creating Content – Profreading
1. English is Not My First Language
ภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ภาษาที่หนึ่งของ John Chow เขาแทบจะสอบไม่ผ่านภาษาอังกฤษในระดับโรงเรียนด้วยซ้ำ ถ้าอาจารย์ของเขารู้ คงจะช็อก เมื่อรู้ว่า John Chow หาเลี้ยงชีพจากการเขียนหนังสือ มีคนเก่งภาษาอังกฤษกว่าเขามากมาย มีแต่เขา ที่หารายได้จากการเขียนภาษาอังกฤษ
2. My Proofing Steps
John Chow ชอบใช้ Firefox สำหรับการเขียนโพส เพราะว่า Firefox ช่วยเขาตรวจแก้คำสะกด อย่างไรก็ตาม เขายัง copy มาลงใน MS Word เพื่อเช็คคำและไวยากรณ์อีกครั้ง เขายังชอบที่จะ save และ แก้ไขใน Wordpress และ Preview ก่อนที่จะเผยแพร่ (ใน Wordpress มี Preview เหมาะสำหรับการดูการแสดงผลและรูปแบบ และ ยังเหมาะสำหรับผู้ที่เขียนโดยใช้ภาษา html ) John Chow จะอ่านและตรวจทาน 3-6 ครั้ง ก่อนที่จะใช้ MS Word เช็คคำและ grammar John Chow ให้ความสนใจกับความต่อเนื่องของบทความ การกระโดดไปมาจะทำให้ยากต่อการติดตาม
3. orrecting Mistake after an Article is Live
เมื่อคุณพบว่ามีข้อผิดพลาดจากการโพส ให้จัดการในทันที อย่าเบื่อหน่ายถ้ามีผู้ Comment คุณ เพราะเขาเหล่านั้นพยายามที่จะช่วยคุณ ทำให้ถูกต้องและขอบคุณเขาเหล่านั้นJohn Chow พิสูจน์แล้วว่า คุณไม่จำเป็นต้องเก่งกล้าในภาษาอังกฤษ ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ ที่คุณต้องมี คือ การเขียนที่ดีและบอกประเด็นให้ตรงกับที่คุณต้องการ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจ

Thursday, August 23, 2007

Successful Bloggers

Chapter 3 continue
The Seven Habits of Highly Successful Bloggers
1. They Blog on a Consistent Basis
Successful Bloggers จะมีนิสัยของความสม่ำเสมอของการโพส ถ้าคุณเป็น New Blogger คุณควรจะตั้งเป้าหมายที่จะโพสอย่างสม่ำเสมอ เป็นการดีกว่าที่คุณจะโพสอย่างสม่ำเสมอ 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และสร้างความสม่ำเสมอของการโพส ที่คุณพอใจ
2. They Are Passionate About Their Topic
Successful Bloggers มีความกระหายที่จะเขียนใน Topic ของเขา ถ้าคุณไม่มีแรงบันดาลใจใน
Topic ของคุณ มันเป็นเรื่องที่สร้างความยุ่งยากให้คุณ โดยเฉพาะ ถ้าคุณจงใจสร้าง Blog เพื่อเงิน
3. They Interact With Their Readers
Blog เป็นการสื่อสารระหว่างกัน เพื่อให้เกิดการปรับปรุง Successful Bloggers สื่อสารกับ
ผู้อ่าน ตอบ email และ comment เพื่อให้ได้รับการตอบกลับ การสื่อสารเป็นการสร้างความสัมพันธ์และความจงรักษ์ (Loyalty) และทำให้คุณเป็นคนที่เขาสามารถเข้าหาได้
4. They Give Out Lot of Link Love
Successful Bloggers จะไม่ปกปิด link ของเขา เขาไม่มีปัญหาที่จะ Link กับ Site ใหม่ๆ John Chow คิดว่า ถ้า Blog นั้นเป็นเรื่องดีๆ หรือ แนวคิดนั้นๆอยู่ใน Topic ของเขา เขาจะไม่สนใจในเรื่อง Ranking เลย
5. They Know How to Brand Themselves
Successful Bloggers รู้วิธีสร้าง Brand ของเขา การมี Brand ทำให้ Blog ๘องเขาแตกต่างจากคนอื่นๆ อะไรที่สร้างความแตกต่าง ตัวคุณและความสามารถในการโปรโมทให้แตกต่าง John Chow จึงแนะนำให้เรามี Owned Domain Name แทนที่จะใช้ระบบฟรี เช่น Blogspot
6. They Are Good Writers
คุณไม่จำเป็นต้องเป็น Great Writer แต่ที่คุณต้องทำ คือ การสร้างความคิดที่ดี (getting
your ideas) ผู้คนส่วนใหญ่อ่าน Blog เพราะต้องการจ้อมูล เขาไม่ถือสาเรื่องไวยากรณ์มากนัก ตราบใดที่เขาเข้าในประเด็นหลัก เมื่อเขาไม่เข้าใจ เขาจะถามคุณเอง และคุณจึงจำเป็นต้องพัฒนาทักษะของคุณ
7. They Read John Chow dot Com
แน่นอน Successful Bloggers อ่าน Blog ของ Bloggers ที่ประสบความสำเร็จคน
อื่นๆ John Chow อ่าน All Big Name Bloggers เพื่อดูว่า เขากำลังพูดเกี่ยวกับอะไร

How To Handle Negative Comments In A Blog
วิธีจัดการกับ comment ที่เป็นลบ
1. Negative Comments Are a Good Thing
John Chow ให้ความสำคัญกับ Negative Comment เพราะว่า มันเป็นตัวชี้วัดการเติบโตของBlog ให้จำไว้เลยว่า เมื่อ Blog ของคุณโตขึ้น จำนวนของ Negative Comment ก็จะมากขึ้นเช่นกัน ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า Negative Comment ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย จริงๆแล้ว Negative Comment เป็นสิ่งที่ดี กฎที่ควรจำ ถ้าแนวคิดของคุณไม่ได้ทำให้เกิดการโต้แย้งเลย นั้น แสดงว่า คุณต้องทำอะไรที่ไม่ถูกต้องในหลักการสำคัญของการสร้าง Blog
2. Negative Comments Encourage Discussions
ลองนึกภาพดู จะเป็นที่น่าเบื่อหน่ายเหลือเกิน ถ้า Blog ของคุณมีแต่ Comment ที่บอกว่า “เห็นด้วย” “คุณกล่าวถูกต้องแล้ว” การมี Negative Comment ทำให้มีการถกแถลงเกิดขึ้นในหมู่ของผู้อ่าน มันก็คล้ายกับเกิดสงครามใน forum ที่หลายๆคนก็เข้ามาโต้แย้งกัน บ้างก็ว่า ไม่ควรหรือไม่ถูกต้อง เจ้าของ Blog ส่วนใหญ่ จะไม่ไปหยุดการโต้แย้งในทันที เพราะว่า การถกแถลงได้เพิ่มจำนวนผู้เข้ามาอ่าน Blog ของเขา เหตผลหนึ่งที่ John Chow อนุญาตให้มี Negative Comment ใน Blog ของเขา ก็เพราะว่า Negative Comment จะนำพาผู้คนจาก site ที่คล้ายๆกันมาร่วมเสนอความคิดเห็น
3. People Who Say They’re Leaving Don’t
ไม่มีใครที่จะจาก Site นั้นไป เมื่อเขาพูดว่า เขาจะไม่เข้ามาดูอีกแล้ว เขาเหล่านั้นอาจจะเข้าไม่บ่อยเหมือนที่ผ่านมา แต่ในที่สุด เขาก็จะเข้ามาอีกในโพสหลัง เพื่อถกแถลงหรือโต้แย้ง
4. How to Handle a Negative Comment
วิธีที่ดีที่สุด ที่จะจัดการกับ Negative Comment ก็คือ ขอบคุณเขาและบันทึกข้อกังวลของเขาไว้ อย่าทะเลาะกับผู้อ่าน ถึงแม้ว่าเขาจะกดดันคุณ เพื่อแสดงว่าคุณเป็นมืออาชีพ ในขณะเดียวกัน ถึงแม้ว่า คุณสามารถลบ Negative comment นั้นเสีย แต่คุณก็ไม่ควรทำ เพราะ comment ก็เหมือนกับ content ซึ่งสร้างจำนวนผู้เข้ามาอ่าน
ในคราวต่อไป เมื่อคุณอ่าน Negative Comment คุณจะต้องไม่มองว่า เป็นสิ่งไม่ดี เพราะมันแสดงถึงการเติบโตของ Blog คุณ คุณกำลังทำในสิ่งที่ถูกแล้ว ถ้าคุณไม่มี Negative Comment ก็แสดงว่าคุณกำลังมาผิดทาง

Post Length & Post Frequency
ความยาวของการโพส อาจจะตั้งแต่ 1 Paragraph จนถึง 7,000 คำ กุญแจสำคัญ
ไม่ได้อยู่ที่ความยาวของโพส แต่อยู่ที่ความถี่ของการโพส และที่สำคัญ ก็คือ ความสม่ำเสมอของการโพส John Chow ชอบที่จะโพส 200-1,000 คำ ขึ้นกับว่าประเด็นที่ต้องการโพส การที่เขาโพสที่ต่ำสุดไม่น้อยกว่า 200 คำ ก็เพื่อให้ Google เข้ามาเก็บข้อมูล (ถ้าน้อยกว่า 200 คำ Google จะไม่สนใจเลย
การโพสบ่อยๆ มีความสำคัญมากกว่าการโพสที่ยาวๆ การโพสทุกๆวันนั้นเป็นประโยชน์ เพราะทำให้ผู้อ่านเข้ามาดูเป็นประจำหรืออาจจะ Subscribe RSS Feed ของคุณ Google เองนั้น ชอบ Site ที่มีการ Update บ่อยๆ และจะส่ง Google Robot (Googlebot) มาเก็บข้อมูลของคุณบ่อยขึ้น การโพสบ่อยๆ นั้น สำคัญ Blog ใหญ่ๆ จะฉวยโอกาสแย่งผู้ชม จาก Main Site ที่ไม่ Update Site เพราะอยู่ระหว่างการพักผ่อน แต่ที่สำคัญ กุญแจหลักอยู่ที่ความสม่ำเสมอของการโพส

Blogging Mistake

Chapter 3 (continue)
Blogging Mistake To Avoid
สิ่งที่ Blogger ควรหลีกเลี่ยง
1. Non Updating

ไม่มีอะไรร้ายแรงไปกว่า การไม่ Update Blog การ Update Blog ที่ดี ควรมีวงรอบการ Update ที่แน่นอน นอกจากจะทำให้ Rank ดีแล้ว ยังทำให้ผู้อ่านแวะเวียนเข้ามาเป็นประจำ การโพสบ่อยๆ นั้น เป็นผลดี แต่ยังไม่สำคัญเท่าความสม่ำเสมอในการ Update Blog
2. Blog Only For Money
มี Bloggers จำนวนน้อยมากๆที่ สร้าง Blog เพื่อเงินอย่างเดียวแล้ว ประสบความสำเร็จ และ
แต่มีน้อยกว่าน้อยมากที่ Blog นั้นๆสร้างรายได้มากกว่า $100/เดือน เพราะการที่คิดสร้างรายได้เพื่อเงินอย่างเดียวนั้น ขัดกับธรรมชาติของการโพส และทำให้กรอบความคิดแคบ ขาดความริเริ่มหรือสร้างสรรค์
Blog ของ John Chow สร้างรายได้มากมาย เพราะฐานความคิดของเขาไม่ได้สร้าง Blog เพื่อเงิน
3. Rushing Post
ทุกๆ คน ต้องการโพสเรื่องที่ Hot ให้เร็วที่สุด ก่อนใครๆ แต่ความรีบร้อนและไม่มีการสอบทาน มักทำให้เกิดความผิดพลาด จึงควรตรวจทาน 2-3 รอบ ก่อนเผยแพร่ แต่ถ้ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น คุณต้องแก้ไขโดยเร็ว
4. Not Being Personal
Blog ไม่ใช่ CNN หรือ ข่าว แต่ Blog ที่ดีต้องสนองต่อ ผู้อ่านต้องการรับทราบความคิดเห็นและสิ่งต่างๆที่คุณเสนอ คุณต้องสร้าง Blog เพื่อสนองความต้องการผู้เข้ามาอ่าน โดยการนำเสนอความคิดเห็นของคุณ เพื่อให้เกิดการถกแถลง
5. Being a Copycat
อย่า
copy content ของผู้อื่น เพราะ Blog คุณจะไม่มีความแตกต่างจากเขาเหล่านั้น คุณต้องสร้าง “อะไร” ขึ้นมาเพื่อให้คุณ “แตกต่าง” เป็น “หนึ่งเดียว” คือ “คุณ” ทั้งๆที่คุณอาจจะเขียน Topic เดียวกับเขาเหล่านั้น แต่คุณได้เพิ่มความคิดเห็น ความเป็นตัวตนของคุณจึงทำให้เกิดความแตกต่าง
John Chow เขียน Blog เรื่องเกี่ยวกับการสร้างรายได้ทางอินเตอร์เน็ต เหมือนคนอื่นๆ แต่แตกต่างจากผู้อื่น ทำให้ Blog ของเขาสร้างรายได้มากมาย
6. Not Replying to Comments
Blog เป็นการสื่อสาร 2 ทาง การไม่ตอบ comment ทำให้คุณสูญเสียผู้เข้ามาอ่าน เพราะคนอ่านก็ต้องการ คำตอบ การโพสโต้ตอบ ทำให้จำนวนผู้เข้าชม Blog มากขึ้น แต่ถ้าไม่มี Comment นี่สิ คุณต้องพยายามใส่ข้อความ (Two Plugins to Increase Blog Comment)
7. Not Giving a Full RSS
ถ้าคุณไม่ได้โพสมากกว่าวันละ 10 ครั้ง ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ใช้ Full RSS
John Chow พบว่า ตั้งแต่ เขาเริ่มใช้ Full RSS และได้เพิ่ม RSS Subscribers มาเรื่อยๆ ช่วยทำให้ Blog ของเขามีคนเข้ามาดูมากขึ้น ถึงแม้ว่า การบริหาร Full RSS ใน Blog จะยากสำหรับ Blogger แต่ผู้เข้ามาอ่าน ก็ต้องการที่จะอ่านข้อมูลแบบครบถ้วนมากกว่าขาดๆหายๆ
8. Not Reaching Out to The Other Bloggers
วิธีที่ดีที่สุด ที่ Blog ของคุณจะได้รับ Comment คุณควรเข้าไปทักทายใน Blog อื่นๆ ที่มีเนื้อหาคล้ายกัน และทิ้ง Trackbacks ไว้
John Chow จะทำการตรวจสอบ Comment ของเขาอย่างสม่ำเสมอ และจะไปเยี่ยมชม Blog ของคนอื่นๆ ทำให้เขาได้พบ Blog ที่ดีๆ ที่เขานำมาสร้างหรือพัฒนา Blog ของเขา
วิธีอื่น ได้แก่ การแลก Link กับ Site อื่นๆ โดยไม่สนใจว่า Site นั้นๆ จะมี Rank ที่ดีหรือไม่ และทิ้ง Trackbacks ไว้ รวมทั้งการเป็นสมาชิกของ Blog นั้น
9. Writing for Google instead of People
มีหลาย Blogger ที่สนใจมากเกินไปกับการสร้าง Ranking กับ Google ในเรื่อง Key Phases , Keyword Density,… ซึ่งเป็นการเขียน Blog ให้ Google อ่าน ทั้งๆที่ ความจริงแล้วนั้น ต้องการให้มีคนทั่วๆไปเข้ามาอ่าน เขาทำถูกหรือ
10. Not Reading John Chow Dot Com
(ผู้แปล ก็ คิดเช่นนั้น)

Wednesday, August 22, 2007

Beginner's Blogging Tips

Charter 3
Beginner’s Blogging Tips
1. Blog about Something You’re Passionate Tips
ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะเขียนเรื่องอะไร ยังไม่ต้องกังวล วิธีที่ดีที่สุด ก็ ถามตัวเองว่า “Would I do this for free?” และถ้าคุณตอบ Yes คุณจะพบเรื่องที่คุณควรจะเขียน ผู้ที่ตั้งใจสร้าง Blog เพื่อเงินนั้นมีน้อยรายที่ประสบความสำเร็จ เพราะเขาได้ตั้งกำแพงของเจตนาขึ้น จนทำให้มุมมองตีบตัน (ผู้แปล)
2. Get Your Own Domain Name
Blog ที่ให้บริการฟรีแก่สมาชิก เช่น Blogger.com และ Wordpress,com นั้น จะมี ลักษณะ http://your**word.blogspot.com หากต้องการเป็น Domain Name ของเรา ต้องเสียค่าบริการ
การที่เรามี Owned Domain Name ของเราเองนั้น จะดูเป็นมืออาชีพ และบาง Ads Network ก็ไม่ยอมรับ ถ้าเราไม่มี Domain Name มี Host ที่ให้บริการ เช่น BlueFur ค่าใช้จ่ายเดือนละ $5 และจะได้ส่วนลด 15% ถ้าคุณสมัครและใส่ข้อความ “JohnChowRocks” ใน Coupon Code
สิ่งต่อไป ที่คุณต้องทำ คือ การสร้าง Blog การสร้าง Backlinks (มากๆ) การ Submit กับ Blog Directories เช่น Alexa และ Technorati
3. Update The Blog Often
Blog ที่ไม่มีการ Update ก็เหมือนกับ Blog ตาย เราจึงควร Update อย่างสม่ำเสมอ
4. Get to Know Your Readers
Blog เป็นการสื่อสาร 2 ทาง Blog ของคุณจะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าไม่มีคนเข้ามาดูหรือไม่มี comments นอกจากนั้น Blog ยังสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคุณ ผู้อ่านและ Blogs อื่นๆ ที่คุณ Link ไปหาหรือ Link เข้ามา
5. Monetize the Blog With Multiple Sources
คุณต้องสร้างรายได้จากหลายๆทาง อย่าจำกัดเฉพาะ Google AdSense เพราะยังมีอีกหลายๆAdS Network ที่คุณสามารถนำมาสร้างรายได้ John Chow มีรายได้จาก Google AdSense เพียง 10%
ของทั้งหมด John Chow สร้างรายได้จาก Ads Network ถึง 8 แหล่ง และมีเพียง 2 แหล่งเท่านั้นที่เป็น Ads Banners ทำให้ Blog ของเขาสะอาด ทั้งๆที่ทั้งหน้านั้น เขาได้ใส่โฆษณาไว้อย่างมากมาย (Text และ Content Link) และไม่เป็นการรบกวนสมาธิของผู้เข้ามาอ่านด้วย (ในโพสก่อนหน้านี้)

Tuesday, August 21, 2007

Make Money Online With John Chow dot Com

ทำไม John Chow สร้างรายได้จาก Blog เดือนละมากกว่า $10,000+ ได้ภายใน 8 เดือน
ผมได้แปล eBook ของ John Chow เป็นหนังสือที่ดีมากๆ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสร้างรายได้จาก Blog ทำไม Big Bloggers จึงสามารถสร้างรายได้ไม่จำกัดจาก Blog ผมได้ส่ง email ถึง John Chow เพื่อขออนุญาตแปลเป็นภาษาไทยและขอขอบคุณ John Chow สำหรับ eBook ชุดนี้

Make Money online With John Chow dot Com

How I Went From Zero To $10,000+ a Month By Blogging and How You Can Too

Chapter 1
Someday Never Comes

Give Yourself And Out


ความแตกต่างของการกำหนดเป้าหมาย “Goal” ของผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จกับผู้ที่ประสบความสำเร็จนั้นแตกต่างกัน เรามักจะได้ยินคำว่า “สักวันหนึ่ง ผมจะทำ...” จากผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่สำหรับผู้ที่ประสบความสำเร็จ เราจะได้ยินว่า “เขามีแผนที่จะทำในวันที่...”

ทำไมผู้ไม่ประสบความสำเร็จจึงมักพูด “สักวันหนึ่ง (some day)” “ผมหวังว่า (I wish)” “ผมอยากจะ” สาเหตุเพราะ เขาเหล่านั้นต้องการหลีกเลี่ยงการผูกมัดจากความรู้สึกที่จะล้มเหลว ใช่ เขากลัวและเกลียดความล้มเหลว ต่างจากผู้ที่ประสบความสำเร็จ คนเหล่านี้รู้ดีว่า ความสำเร็จมักเกิดจากความล้มเหลวมาก่อน

ทุกๆคนมี “ความฝัน” มี “เป้าหมาย” แต่ ความฝันแตกต่างจากเป้าหมาย เพราะเป้าหมายจะสำเร็จได้ด้วยการกระทำ ทุกคน มีความฝันที่อยากมีอิสระทางการเงิน มีครอบครัว อยากช่วยเหลือผู้อื่น และอีกมากมาย แต่จะมีสักกี่คนที่สร้างเป้าหมายเพื่อให้บรรลุความฝัน คุณกำหนดเวลาที่จะทำให้ฝันเป็นจริงหรือยัง หรือคุณยังคงพูดว่า “สักวันหนึ่งผมจะทำมัน” หรือ “ผมหวังว่ามันจะดีขึ้น”

เป้าหมายที่ไม่ได้ตั้งเวลาไว้ ก็คือ ไม่มีเป้าหมาย
ลองจินตนาการว่า จะจองคอนโดมิเนียมแต่ไม่รู้ว่า คอนโดมิเนียมนั้นจะแล้วเสร็จเมื่อไร และเจ้าของโครงการบอกว่า “สักวันหนึ่งมันจะแล้วเสร็จ” แล้วคุณจะยังซื้อหรือไม่ เหมือนกัน คุณคงไม่ซื้อคอนโดมิเนียมนั้นแน่ๆ แล้วคุณคิดว่า “คุณจะยังซื้อความฝันอยู่อีกหรือ”

ถ้าคุณอยากจะได้รับสิ่งดีๆกับชีวิตคุณ คุณจะต้องกำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน และการกำหนดเวลาจะทำให้คุณต้องปฏิบัติ แทนการนั่งฝันว่า “สักวันหนึ่งผมจะได้..” อย่ากลัวความล้มเหลว เพราะความล้มเหลวจะสร้างประสบการณ์ให้คุณประสบความสำเร็จ

ผู้คนมากมายต้องการสร้างความสำเร็จจากอินเตอร์เน็ต และก็มีเพื่อนๆของผมหลายคน อย่างไรก็ตาม ในหลายปีที่ผ่านมา มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ได้ทำอย่างจริงจัง ทั้งๆที่ผมได้พยายามกระตุ้นให้เขาเหล่านั้น “สร้างเว็บเดี๋ยวนี้” มีหลายคนที่ตอบว่า ผมต้องการจะทำ ผมก็รอมาหลายปี และก็เชื่อว่า “สักวันหนึ่งเขาเหล่านี้จะสร้างเว็บ”

Chapter 2
My Recommended Money-Makers

คำแนะนำสำหรับผู้สร้างรายได้ทางอินเตอร์เน็ต

ข้างล่างนี้ เป็นเครือข่ายงานโฆษณา (Ad Network) และระบบการบอกรับสมาชิกเครือข่าย (Affiliate Program) ที่ John Chow ใช้สร้างรายได้ และเลือกมาจากทั้งหมด 130 เครือข่าย เป็นเครือข่ายที่ได้รับการยอมรับในเรื่องบริการ ระบบสนับสนุนและความซื้อสัตย์ในการจ่ายเงิน

Kontera ContentLink

Kontera ContentLink ให้คุณสร้างรายได้จากการโฆษณา เทคโนโลยีของ Kontera จะอ่านข้อความของคุณและส่ง link มาให้ (คำที่ขีดเส้นใต้ 2 เส้นและ Ads Pop จะปรากฏเมื่อเอาเมาส์ไปวาง)

เว็บที่จะสมัครต้องมีจำนวน Page Overview เดือนละไม่ต่ำกว่า 500,000 แต่ คุณก็สามารถสมัครได้ ถึงแม้เว็บคุณจะเป็นเว็บเล็ก โดยพิมพ์ในแบบฟอร์มว่า “John Chow Kontera Partnership” เพราะ John Chow เป็นสมาชิกหลักของ Kontera

Sign Up for Kontera

Text Link Ads

Text Link Ads เป็นอีกระบบที่ John Chow ใช้ และทำให้ John Chow สร้างรายได้จากการขายและยังเป็นประโยชน์ในด้านการเพิ่มจำนวนผู้เข้าเว็บและด้าน Search Engine ด้วย รวมทั้งระบบยังไม่เป็นการรบกวนจิตใจผู้เข้ามาดูเว็บ ราคาของ Link ขึ้นกับ Text Link Ad, Alexa, Google Pagerank, จำนวน RSS Feed และ ปัจจัยอื่นๆ

Sign Up for Text Link Ads

Google AdSense

ระบบนี้เป็นระบบที่สำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการสร้างรายได้จาก Blog มีทั้ง Simple Text และ Image Ads โดย Google จะเป็นผู้เลือกโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับเว็บของเรา มาให้

Sign Up for Google AdSense

Bidvertiser

Bidvertiser เป็น CPC ad network ( CPC = Cost Per Click, จ่ายทุกๆครั้งที่มีการคลิก) ที่เป็นคู่แข่ง Google AdSense และมีข้อเหนือกว่า Google AdSense ที่ Minimum Payout Level คือ $10 (Google AdSense $100) เหมาะสำหรับ Blog เล็กและมีรายได้น้อย

Sign Up for Bidvertiser

Auction Ads

Auction Ads เป็นเครือข่ายของ eBay สิ่งที่ Auction Ads ทำก็คือ เป็นศูนย์รวมของผู้โฆษณาให้กับ eBay วัตถุประสงค์ให้เราสร้างรายได้จากการเป็นผู้ร่วมโฆษณาแทนการอยู่ในระบบสมาชิกตรงของ eBay’s affiliate Program

Sign Up for Auction Ads

Review Me

Review Me เป็นแหล่งสร้างรายได้ที่ใหญ่ที่สุด ที่ John Chow ได้รับ ในเดือนเมษายน John Chow มีรายได้จาก Review Me $4,500 จากจำนวนทั้งสิ้น $11,702.66 Review Me อนุญาตให้ผู้โฆษณาซื้อ sponsored reviews มาใส่ใน Blog ราคาขึ้นกับ Alexa, Technorati และจำนวน RSS Feed แต่จำนวนตัวอักษรใน post ต้องไม่น้อยกว่า 200 คำ

Sign Up for Review Me

TTZ Midia

TTZ Midia ระบบนี้เป็นของ John Chow เป็นระบบสำหรับด้าน Technology และ Shopping TTZ Midia Network ยังไม่พร้อมดำเนินการ

AGLOCO

AGLOCO สร้าง Toolbar ที่มีข้อความโฆษณา ถ้าคุณ Run Toolbar คุณจะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากโฆษณานั้น และยังจ่ายให้คุณเมื่อคุณแนะนำให้คนอื่นใช้ Tool Bar นี้ ยิ่งคุณมีสมาชิกมากเท่าไร คุณก็ยิ่งสร้างรายได้มากขึ้น ปัจจุบัน John Chow มีสมาชิกมากกว่า 16,000 คน และเพิ่มมากกว่า 100 คนต่อวัน AGLOCO เพิ่งเริ่มดำเนินการ จึงยังไม่มีการจ่ายเงินให้สมาชิก อย่างไรก็ตาม คุณไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น และมีเพียง AGLOCO ระบบเดียว ที่คุณไม่จำเป็นต้องมีเว็บ

Sign Up for AGLOCO