วันแห่งความว้าวุ่นใจ

สำหรับ 4-5 วันที่ผ่านมา เราไม่ได้เข้ามา update blog เลย เพราะอยู่ในภาวะว้าวุ่นใจ เพราะงานประจำหนักหนาขึ้นทุกวัน เสาว์ อาทิตย์นี้ คงทำอะไรได้ไม่มาก ความว้าวุ่นใจของเรา เกิดจากที่เราไม่สามารถจัดการกับสิ่งที่ค้างคาใจได้ ไม่สามารถกำหนดลำดับความเร่งด่วนของงานได้ จึงเริ่มต้นงานแรกไม่ได้ ดูแล้วทุกอย่างติดขัดไปหมด โดยทั่วไปเราเป็นคนที่ตัดสินใจในแต่ละสถานการณ์ได้ค่อนข้างดี แต่ภาวะว้าวุ่นใจครั้งนี้หนักหนาสาหัสเอาการ เป็นองค์ความรู้ที่เราต้องไปจัดการก่อนที่เราจะถ่ายทอดไปยังคนอื่นๆ ว้าวุ่นใจเพราะเป็นองค์ความรู้ที่ทีมงานแต่ละคน ยังไม่มีพื้นฐานกันเลย เราจึงต้องเป็นทั้ง head, staff, Trainer และ trainee ถ้าจะสนุกพิลึก อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่า เราจะสามารถขจัดความว้าวุ่นใจครั้งนี้ได้ เหมือนกับที่เราเคยผ่านมาได้เป็นอย่างดี
และ..เราก็เชื่อว่า เพื่อนๆ ทุกคน ก็เคยผ่านสถานการณ์แบบนี้ และสามารถก้าวข้ามมันไปได้ด้วยดี

การเปิดร้านค้าออนไลน์

การเปิดร้านค้าออนไลน์       

การเปิดร้านค้าออนไลน์เป็นเรื่องง่ายมาก ไม่มีทุนหรือมีทุนสัก 400 บาท/ปี ก็มีเว็บไซต์และมีสินค้าในหน้าเว็บแล้วไม่เชื่อลองค้นหาคำ “ฟรีร้านค้าออนไลน์” ประเด็นสำคัญ มันอยู่ที่ “จะขายอะไรดี” ต่างหาก

ทำไม..ต้องเปิดร้านค้าออนไลน์

ไม่ว่าคุณจะมีเงินมากหรือเงินน้อยก็ดี การเปิดร้านค้าออนไลน์ทำให้เรามีต้นทุนไปสำหรับวันข้างหน้า ได้ทั้งประสบการณ์และได้เงิน (หลายคนหยุดอยู่ที่นี่ เพราะสร้างเนื้อสร้างตัวได้แล้ว) ประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สอนกันไม่ได้

ร้านค้าออนไลน์ที่เป็นฝันของเรา ต้องเป็นร้านค้าที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย เว้น การโปรโมตเว็บ ถ้าไม่ได้แบบนี้ ก็เอาเป็นแบบ Suppliers ของเรารับภาระทางธุรการทั้งหมด เช่น การจัดส่งสินค้า (เว้น เรื่องเงิน) สินค้าที่ขาย ควรเป็นสินค้าที่ขายได้ด้วยตัวของมันเอง (อย่าเลือกสินค้าที่ต้องเปลี่ยนทัศคติของคน..เด็ดขาด) การรับ-จ่ายเงิน ระบบโอนเงินก่อน ดีที่สุด (ณ ตอนนี้) การจ่ายเงินปลายทาง จะทำให้คุณมีภาระหนี้ตามมาในภายหลัง รวมทั้งระบบรับ-จ่ายเงินผ่านเว็บไซต์ (คุณไม่สามารถป้องกันการแฮ็คได้หรอก)

เราย้อนกลับมาประเด็นสำคัญสุดๆ จะขายสินค้าอะไรดี ทั้งๆที่ผมได้ให้ Thai affiliate List ไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ผมก็ยังไม่พอใจเท่าไร ไม่ตรงกับทัศนคติบ้าง ไม่มีแววเติบโตบ้าง

ขอบอกกล่าวไว้ก่อน ผมไม่ทำ MLM (Multi-level Marketing) หรือ ธุรกิจขายตรง ในบทความของผมจะไม่มีส่วนใดเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

ลองมาดู Trend อันหนึ่ง ที่ผมกำลังเล็งๆอยู่

คุณเชื่อหรือไม่ว่า อีก 3 ปีข้างหน้า ราคายาแผนปัจจุบัน ..อาจเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าของปัจจุบัน เพราะมีการใช้กระแสไฟฟ้ามากขึ้น 5-8 เท่า ของระบบเดิม มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการบำรุงรักษาระบบอีกประมาณปีละ 5-10 ล้านบาท (ในอดีตอาจมีวงเงินไม่ถึง ล้านบาท) มีค่าตรวจสอบความเที่ยงตรงอีก ปีละ 1 ล้านบาท (ในอดีตอาจไม่มีเลย) ที่ต้องผลักเข้าไปในต้นทุนยาแผนปัจจุบัน สิ่งที่ตามมาคือ การรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันจะสูงลิบลิ่ว แม้กระทั่งชนชั้นกลาง..ก็ไม่ไหว อะไรจะเกิดขึ้น

แพทย์ทางเลือกกับกระแสการรักษาสุขภาพในเชิงป้องกัน จะเจริญเติบโตอย่างมากๆ นั้นคือ ผลิตภัณฑ์อาหารและอาหารเสริมจะเติบโตแบบก้าวกระโดด คุณหาสินค้าพวกนี้เจอหรือยัง

กระบวนการเลือก Keywords

กระบวนการตกลงใจเพื่อการเลือก  Keywords แต่ละตัว

    นัยยะของหัวข้อนี้ ก็คือ เรามีกระบวนการเลือก  Keywords อย่างไร  แล้วจึงจะมีผลตอบแทนกลับมาหาเรา ผลตอบแทนที่ว่ามาจากไหน ก็มาจาก การโฆษณาของ Google (Google Adwords อยู่ฟากฝั่งของผู้โฆษณา โดยแสดงผลออกมาในรูปของ Google AdSense ที่ปรากฏในเว็บไซต์ Google และ เว็บพันธมิตรของ Google ซึ่งรวมทั้งเว็บเราด้วย) Keywords (หมายความรวมถึง Board Keyword, Exact Keyword และ Phrase) ที่ไม่มีผู้นำมาใช้ในการโฆษณา (Advertiser) จะมีค่าคลิ้กต่ำหรือไม่มีเลย คงไม่มีประโยชน์อะไร ที่เราจะใช้ Keyword ตัวนั้นหรือทั้งกลุ่มเลยก็ได้ เราสามารถทราบได้ว่า มีการใช้ Keyword นั้นๆ ได้จาก Google Keyword tools ที่บอกค่าคลิ้ก (Pay Per Click, PPC) สภาพการแข่งขัน (competition) และ จำนวนผู้ค้นหา นอกจากนั้น เรายังสามารถดูโฆษณาที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน ได้จาก การค้นหา ด้วย Keyword นั้น ใน Google.com ให้คุณใส่ Keyword ในช่องค้นหาของ Google คุณจะเห็นการโฆษณาอยู่ 2 ที่ คือ

• เว็บไซต์แรกๆของผลการค้นหา จะมีพื้นสีจางๆ และเขียนว่า โฆษณา
• โฆษณาในตำแหน่งขวามือของเรา จะเขียนว่า โฆษณา

ทั้ง 2 ตำแหน่ง ถ้ามีมากๆยิ่งดี แสดงถึงการแข่งขันของผู้โฆษณา (มีคนทำ Google Adwords มาก) ค่าคลิ้กจะสูงตามไปด้วย

      บางครั้ง ถ้าเราใช้ Keywords ที่เฉพาะเจาะจงมากไป อาจไม่มีโฆษณาเลย...และหลายๆครั้ง เราสามารถได้ Keywords จากการทำด้วยวิธีนี้ โดยเฉพาะการหาว่า มีธุรกิจอะไรบ้าง ที่มีการโฆษณามากน้อยอย่างไร และเราควรจะทำเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ หรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะการโฆษณาด้วยภาษาไทยของเรายังมีน้อยและน้อยจน Google ไม่สามารถบันทึกสถิติลงใน Google Keyword tools ได้ครบทุกช่อง

      ที่ต้องย้อนมากล่าวเรื่องนี้  เพราะ Main Keywords หรือ “Keywords หลัก” ของเว็บไซต์ เป็นสิ่งที่เราต้องพยายามจับใส่ไว้ใน ชื่อ เว็บไซต์ และ Title ของเว็บไซต์ของเรา (หลักการพื้นฐานการสร้างเว็บให้เข้ากับ SEO)

Tips: เล่นในตลาดที่มีคนเล่น เพราะแสดงว่ามี Demand เพียงพอให้เล่น

         : เล่นในตลาดที่ใหญ่พอ เพราะ...คุณสามารถแทรกเข้าไปได้ไม่ยากเลย หากคุณทำตามคำแนะนำของผม เชื่อเถอะว่า เว็บคุณจะเป็นเว็บเกรด เอ ส่วนการปรับแต่งหน้าตาเว็บให้ดึงดูดใจ (ห้าม/ไม่ควรใช้ Flash) ด้วย Applications ต่างๆ คุณจะมีความชำนาญขึ้นในภายหลัง

ยังจำได้ไหม..ที่ผมบอกว่า เว็บภาษาไทย ส่วนใหญ่ถูกสร้างโดย Webmaster ที่เก่ง สวยงาม ด้วยความชำนาญในการเขียนและใช้โปรแกรม แต่เขาเหล่านั้น ส่วนใหญ่ ไม่มีจนถึงไม่รู้เกี่ยวกับการสร้างเว็บอย่างไรที่เป็นมิตรกับ Google (Search Engine) ไม่มีความรู้เกี่ยวกับกระบวนการเลือก Keywords (Keyword Suggestion), Google Keyword Tools ฉะนั้นจึงมี Webmaster น้อยคนนัก ที่จะรู้จัก Keywords ที่ควรใช้ มีคู่แข่งเท่าไร และหลายๆคนอาจรู้ในเชิงนามธรรมว่า “Content is the King, Keyword is the queen” ในทางปฏิบัติ น้อยคนที่จะมีประสบการณ์จริงๆ

กรณีศึกษา ของผมเอง เว็บนี้ www.pachage2tour.com  เป็นเว็บภาษาไทย อันที่ 2 ของผม (หลังจากผมพบความจริง ตอนนี้มีอายุเข้า 10 เดือน) เปรียบเทียบกับเว็บเก่าแก่อายุมากกว่า 10 ปี ที่เคยครองอันดับ 1 มานานๆ ลองค้นหาใน Google.com ด้วยคำว่า “แพ็คเกจทัวร์” ซึ่งมีการแข็งขันสูงมากๆ (ตามปกติของเว็บท่องเที่ยว) แนะนำให้คุณ Cache เว็บอันดับ 1 เปรียบเทียบกับเว็บอันดับ 5 หรือมากกว่า โดยให้ดูตัวอักษรที่มีสีป้ายไว้ ซึ่งแสดงถึง Keyword ทั้ง 3 ประเภท (Logarithms ของ Google ไม่ได้มีเฉพาะ Keywords density) ร่วมกับการผสมผสานของ Keywords กับ Contents (ใหม่, สด ปรับปรุงสม่ำเสมอ) ได้ทำให้เว็บอายุ 3 เดือนขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ได้

Tips: คุณสามารถพัฒนาเว็บไซต์แบบค่อยๆทำ แต่สม่ำเสมอ มีประโยชน์มากมาย อย่าทำทีละมากๆ แต่ไม่ต่อเนื่อง รวมทั้งการโปรโมตเว็บไซต์ (SEO) ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานและมีวิธีมาตรฐานที่ทุกคนต้องทำและยึดถือ อย่างน้อยที่สุด ต้องทำ Google Sitemap (มีคำแนะนำระหว่างการสร้างเว็บของเว็บสำเร็จรูป/ดูใน Google) Add URL (Google, DMOZ,ฯ) email marketing, Social Network (Face book, Youtube,…) ส่วนบทความที่ผมเขียนขึ้นมานี้ เป็นเทคนิคที่คนทั่วๆไปกระโดดข้ามเลยไป และเป็นเหตุให้ผมเสียเวลาไปเปล่าๆ ร่วม 10 ปี

ผมก็หวังว่า คุณๆ ที่สนใจในการหาเงินจากเว็บไซต์ จะเดินตามขั้นตอนที่ผมเขียนไว้ อย่างประณีต นั่นคือ “Do The Right Thing” เมื่อคุณมีประสบการณ์มากขึ้น เว็บที่ 2 ของขึ้นจะดีกว่าเว็บที่ 1 แน่นอน

Tips: การเลือก Host สำหรับเว็บภาษาไทย ถือคติ คนดูอยู่ที่ไหน Host ก็ควรอยู่ประเทศนั้น และผมก็ชอบ Ready Planet และเตรียมการไว้สำหรับเว็บตัวที่ 3 ของผม

อย่างไรก็ตาม สำหรับมือใหม่ ผมแนะนำให้ใช้เว็บฟรีไปก่อน ทำการฝึกปรือการใช้เว็บสำเร็จรูป รวมทั้งเทคนิคตามที่ผมแนะนำ หากเว็บนั้นมีอนาคต เราสามารถ Upgrade ได้

เรามาปรับปรุงเว็บกันเถอะ

เรามาปรับปรุงเว็บกันเถอะ
    เป็นไปไม่ได้เลย...ที่..เว็บของคุณจะสมบูรณ์ เลอเลิศอยู่ตลอดเวลา มีบ้างบางคน..ที่คิดว่า เว็บของฉันดีแล้ว..ไม่ต้องไปปรับปรุงเว็บอะไรอีกแล้ว อันนี้ ผิดมหันตโลก ยังจำได้ไหม Google ชอบให้มีข้อมูลที่ใหม่ๆ อยู่เสมอ ที่เรียกว่า Fresh Content หรือ อย่างน้อยๆ เรามาดูว่า บทความของเรา มี..Keywords เพียงพอหรือยัง หรือ Keywords บางอันของเรา อาจไม่เวิร์คก็ได้ หรือ เราพบว่า มี Keywords บางคำ ที่..เราละเลยไป หรือ Keywords บางคำ ..เจอตอ..คือ มีเจ้าที่ ที่เราคิดว่า เราควรหลบเสียจะดีกว่า
การปรับปรุงเว็บ อย่างน้อยๆ...เพื่อ

• ก็เป็นการปรับรูปแบบของ AdSense ให้ชวนหรือหลงคลิ้ก (ลืมบอกไป..วิธีที่ดีที่สุดของ AdSense คือ พยายาม..อย่ารู้ว่าเป็นโฆษณา ทำให้กลมกลืนไปกับเว็บของเรา เป็นดีที่สุด พวกแบนเนอร์ทั้งหลาย กลับแทบไม่มีคุณค่าเลย (เพราะนิสัยคนทุกๆชาติ จะกลัวแบนเนอร์)
• ถ้าบทความของเราหนาแน่นหรือยาวไปหน่อย ก็เอา Apparatus มาใส่ เช่น VDO (ย่อขนาดลงมา จะได้ไม่กินเนื้อที่) หรือ ใส่โฆษณาที่เป็น Text Ad หรือ รูปภาพก็ดี หรือ จะเลือกใช้ โฆษณาที่เราเป็นพันธมิตรเข้ามาแทรกก็ดีไม่น้อย
• ให้ Google รู้ว่าเว็บเรามีการปรับปรุง เคลื่อนไหว สม่ำเสมอ
• เพียงแค่ 3 ข้อ ข้างบน คุณ..ก็ใช้เวลามากมาย  ค่อยๆปรับปรุงเว็บไปเรื่อยๆ อย่าใจร้อน

จำให้ดี...คุณจะเห็นช่องโหว่ในเว็บของเราเสมอๆๆ เหมือนๆกับ ที่คุณเห็นช่องโหว่ในเว็บของคนอื่นๆ อยากเห็นช่องโหว่ในเว็บคนอื่นๆไหม ลองดู

• ให้คุณเลือกค้นหาใน Google ด้วยคำค้นหาหนึ่ง ควรใช้ Keywords ของเรานั่นหล่ะ Enter เข้าไป
• ได้ผลการค้นหาออกมาแล้วใช่ไหม เลือกดูเว็บที่อยู่ลำดับ 1 ของ Google ก่อน ให้คลิ้กที่ Cache ที่อยู่ท้ายๆ คำบรรยายนั่นหล่ะ
• ผลที่ออกมา Google จะบอกว่า เว็บเพจนั้น มี Keywords อยู่หนาแน่นอย่างไร มีคำที่เป็นองค์ประกอบของ Keywords อยู่มากน้อยอย่างไร (แสดงถึง Relevance) ทำต่อไปกับเว็บลำดับ 2 และ 3 ทั้ง 3 เว็บ แตกต่างกันอย่างไร
• เท่านี้ คุณก็คงจะพอรู้แล้วนะว่า คุณมีแนวทางในการปรับปรุงเว็บอย่างไร...บาย

หาเงินจากเว็บไซต์

เมื่อไร..ฉันควรจะเริ่มหาเงินจากเว็บไซต์ของตนเองได้ ถ้าคุณ..

• คุณมี Google AdSense แล้ว
• คุณมี Blog แล้ว และได้ฝึกการเขียนบทความได้ตามที่ผมแนะนำแล้ว
• คุณเริ่มใช้ Google AdSense แล้ว และได้ศึกษาตำแหน่งของการวาง  Adsense จาก Google แล้ว จำได้ไหม ผมเคยพูดถึง นิสัยของคนทั่วๆไป จะไม่ยอมคลิ้กที่โฆษณา ที่หนักกว่านั้น คนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยว่า มีลิงก์ให้คลิ้กเข้าไปได้

สรุป  คุณมีความพร้อมในระดับหนึ่ง แต่..คุณยังไม่รู้วิธีโปรโมตเว็บหรือบล็อก ในข้อ 3 ผมเพียงแต่ให้คุณมี Google Adsense Account เพื่อฝึกฝนความชำนาญ และลองส่ง e-mail ให้เพื่อนๆ เข้ามาดูเท่านั้น (แน่นอน คุณจะยังไม่มีรายได้อะไรเลย..ก็ได้)

การโปรโมตเว็บหรือบล็อก (Search engine Optimization, SEO) ผมจะใช้วิธีกำหนดให้คุณทำตามขั้นตอน เพื่อให้ดูง่ายๆ จะได้ไม่ถอดใจเสียก่อน เพราะบางครั้งเรารู้สึกไม่ทันใจ..เอาเสียเลย

เมื่อคุณพร้อมที่จะก้าวต่อไป

• เตรียมบทความ ที่สร้างขึ้นจาก Keywords จำนวนหนึ่ง (จากบทที่แล้ว)
• ศึกษาวิธีสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปแล้ว
• คุณมีความมุ่งมั่นเพียงพอแล้ว
• ให้คุณสมัครใช้เว็บไซต์สำเร็จรูป (เอาแบบราคาถูกๆ ก่อน) เราสามารถ Upgrade ได้ ถ้าเว็บนี้ของเรามีอนาคตสดใส  Igetweb ก็ OK ใช้งานง่าย Standard Package เหมาะสำหรับมือใหม่ ปีละ 1,250 บาท รวมค่าโดเมนแล้ว  ข้อดีอยู่อย่างคือ มีระบบทำ Site map  SEO (นิดๆ) และนับจำนวนคนเข้าเว็บด้วย

5.   คุณพร้อมหาเงินจากเว็บแล้วครับ

Tips ; จำได้ไหม บทความของคุณ..ไม่จำเป็นต้องเลอเลิศหรือสมบูรณ์ไปทุกอย่าง (เพราะเป็นไปไม่ได้) คุณไม่จำเป็นต้องทำเว็บที่เสร็จแล้วทุกอย่าง (แต่ต้องไม่มีคำว่า “under construction”) ให้คุณปรับปรุงไปเรื่อยๆ แต่สม่ำเสมอ แต่สม่ำเสมอ จำให้ขึ้นใจ

เมื่อคุณทำเว็บแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำต่อไป คือ SEO

• ลงทะเบียนใน เว็บ/บล็อกไดเรคทอรี่ (Web Directory/Blog Directory) มีมากมาย ทั้งที่รองรับภาษาไทยและไม่รองรับภาษาไทย ตามลิ้งข้างล่าง แล้ว..คุณก็จะเข้าใจว่า ทำไม..ผมถึงให้เซฟ Title/Description/Keywords ไว้ใน Folder ให้ชัดเจน กรอกข้อมูลตามช่องให้ครบ ก็แล้วเสร็จ (ที่ขาดไม่ได้ คือ DMOZ ซึ่งเป็นของ Google) ควรเลือกเว็บที่มี Page rank, PR 3 ขึ้นไป
• ส่ง e-mail ถึงเพื่อนๆ ชักชวนให้เข้ามาดูเว็บ/บล็อกของเรา มีหลายเทคนิคแบบตรงๆ ก็ได้ หรือ จะใส่ลิ้งก์ใน e-mail signature (ตบแต่งด้วยภาพหรืออักษร..ก็ดี) แต่..ไม่ควร Spam อย่างยิ่ง
• ไปโพสในเว็บอื่นๆ ที่เขาอนุญาต
• โพสใน Facebook หรือ Social Network ที่คุณเป็นสมาชิกถ้าเราขายสินค้าออนไลน์ เราสามารถโพสในเว็บขายสินค้า เช่น Sanook/Thaidb/weloveshoping/Thaiwebboard/….ค้นได้จาก Google 
  Submit URL

http://www.google.co.th/addurl/   
http://www.submiturl.net/  
http://www.thairockclub.com/index.php?topic=1007.0  
http://www.comnetsite.com/promote-web-tip-3.php 

วันนี้ พอแค่นี้...“Keep Walking”  ขอบคุณ