ขั้นที่ 2 การวิเคราะห์ตลาดและการสร้างแนวคิดของหัวข้อเรื่องStep#2 Analyze the Market and Assess Your Topic Ideas
ในตอนนี้ คุณก็มีหัวข้อเรื่องอยู่มากมาย ต่อไป เป็นการค้นหาหัวข้อเรื่องที่ดีที่สุด ที่สามารถสร้างเงินให้คุณจากการคัดเลือกมาจากบัญชีหัวข้อเรื่องที่คุณมีอยู่
ตามที่ผมได้กล่าวมาแล้ว ด้วยประสบการณ์ของผม ผมพบว่า เป็นการง่ายกว่ามาก ที่จะเข้าสู่ตลาด ด้วย Info Product ที่เป็นความต้องการของตลาดใหญ่และเป็นตลาดที่มีความต้องการแบบต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์อันแรกๆของคุณ เหตผลก็คือ...มีความเป็นไปได้ที่คุณจะหลงทาง คิดดูก็แล้วกันว่า ถ้าคุณมีคนจำนวนมาก ที่คุณจะขายให้และคุณสามารถเข้าตลาดได้ง่ายกว่า กับ การที่คุณมีคนซื้อจำนวนน้อยและเป็นตลาดเฉพาะที่มีขนาดเล็ก คุณก็มีโอกาสน้อยมากที่จะขายได้
เมื่อคุณสร้าง Info Product แล้วเกิดความผิดพลาดและได้เรียนรู้ว่า อะไรคือสิ่งที่ Work ให้กับคุณ เมื่อคุณยอมรับกับการเข้าสู่ตลาดเล็กๆหรือตลาดเฉพาะ
แต่....ในที่นี้ เราแนะนำให้เข้าสู่ตลาดใหญ่ ด้วยหัวข้อเรื่องทั่วๆไป
บทวิเคราะห์ที่ 1 Look for Forum, Discussion Boards and Chat Rooms
ขั้นแรก ผมจะนำพาคุณไปค้นหาตลาดสำหรับ Info Product ของคุณที่ Google.com และให้ค้นหา หัวข้อเรื่องของคุณ ใน Forum, Chat Rooms…
เหตผลที่เลือก Google เพราะ Google เป็น Search engine ที่ใหญ่ที่สุดและครองตลาด SE มากกว่า 60%
ให้ Browse ไปที่ Google.com พิมพ์คำค้นหา ด้วยหัวข้อเรื่องของคุณ ตามด้วย Forum (หรือ .......) แล้ว Enter คุณจะพบรายชื่อเว็บไซต์ ให้คุณเข้าไปในแต่ละเว็บไซต์ ใน Forum ที่เกี่ยวกับ Main Topic ของคุณ ดูว่ายัง Active หรือไม่ (โดยการเข้าไปใน Forum แล้ว Scroll Down จะพบจำนวนสมาชิก Forum นั้น) ตรวจสอบดูจำนวน Forum จำนวน โพส
ผมแนะนำ....ให้คุณเข้าไปดูว่า โพส ถ้ามีจำนวนโพสๆใหม่ในวันนี้แสดงว่าเป็น Forum ที่ Active มาก และเป็นไปได้ว่า คุณได้พบหัวข้อเรื่องที่ผู้คนกำลังพูดถึงอย่างสม่ำเสมอ
ถ้าหน้าแรกของการค้นหาด้วย Google นั้น เต็มไปด้วยการถกแถลงอย่างกว้างขวางในหัวข้อนี้ นั่น เป็นตัวชี้ว่า ผู้คนกำลังให้ความสนใจหัวข้อเรื่องนี้เป็นพิเศษ ด้วยการค้นหาง่ายๆนี้ คุณก็สามารถคัดกรองได้ว่า หัวข้อเรื่องใด มีความ Popular เพียงใด แต่ถ้าคุณค้นหาหัวข้อเรื่องด้วยวิธีนี้แล้ว พบว่า มีผลการค้นหาน้อยนิดและ Forum ไม่ Active ผมก็อยากให้คุณ ลืมไปได้เลยและก็ควรลบหัวข้อเรื่องนั้นออกจากบัญชีหัวข้อเรื่องของคุณด้วย
ในทำนองเดียวกัน คุณสามารถทำการค้นหาจาก Googlegroup หรือแม้แต่ใน Yahoo ที่ groups.yahoo.com
Tuesday, July 15, 2008
เบิกทางสร้างความคิด ตอน กุญแจของการสืบค้นหาหัวข้อเรื่อง
แนวคิดที่ 1 Clickbank Marketplace
สิ่งแรกที่ผมจะค้นหาผลิตภัณฑ์ที่จะขาย ผมจะมุ่งไปที่ Clickbank เป็นอันดับแรก (www.marketplace.clickbank.net) ที่นี่คุณจะพบรายชื่อเว็บไซต์ที่ขาย ผลิตภัณฑ์อิเล็คทรอนิก, software Program, video ….และ eBook ซึ่งเป็นสินค้าที่คุณสามารถสร้างเองได้ [Clickbank เป็น Affiliate Network Provider ที่ขายสินค้าจับต้องไม่ได้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก]
ในหน้าเว็บ Clickbank จะแบ่งหมวด (Categories) ออกดังนี้
Business to Business (B2B)
…………………………
ถ้าคุณคลิกเข้าไปดูข้างในของแต่ละหมวด ยังแบ่งย่อยลงเพื่อให้สะดวกมากขึ้น
สิ่งที่ผมทำ ก็คือ Click ไปที่หมวดที่ผมสนใจ เช่น Health & Fitness แล้วผมจะเข้าไปจดชื่อและชนิดของเว็บไซต์ที่อยู่ในอันดับแรกๆ
ตัวอย่าง เมื่อผมเข้าไปในเว็บไซต์อันดับ 1 ของ Health & Fitness ซึ่งก็คือ Burn the Fat, feed the Muscle และเมื่อตาม Link ไป พบว่าเป็น เว็บไซต์เกี่ยวกับ weigh-loss เมื่อผมเข้าไปที่เว็บไซต์อันดับ 2 คือ “Fatloss4Idiots”-(Idiot-proof Diet) เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับ weigh-loss เช่นกัน
เมื่อเข้าไปในเว็บอันดับถัดๆไป เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับ สิว โรควิตกกังวล นอนไม่หลับฯ ซึ่งถ้า...ผมพอมีความรู้หรือมีความสนใจเกี่ยวกับมัน มันจะต้องเป็นหนึ่งใน Info Products ของผมอย่างแน่นอน
ผมแนะนำให้คุณเขียน หัวข้อเรื่อง อย่างน้อย 3 หัวข้อเรื่อง ที่ได้จากการเปิดเข้าไปใน Clickbank marketplace ขอให้จำไว้อย่างหนึ่ง Clickbank จัดเรียงอันดับเว็บไซต์ตามลำดับการสร้างรายได้
ฉะนั้นเว็บไซต์ล่างๆ ต้องไม่ใช่เว็บไซต์ที่มีหัวข้อเรื่องที่ดีแน่นอน ให้เลือกเฉพาะ Top20 ของแต่ละหมวดก็พอ แน่นอน..เป็นตลาดที่กำลังมีผู้คนซื้อขายกันอยู่จริง
คงจำได้..ผมให้คุณค้นหา ตลาดที่จรวจสอบแล้ว ว่าทรงคุณค่าและให้คุณเพ็งเล็งไปที่นั่น อย่าสร้างผลิตภัณฑ์แล้วจึงค่อยหาตลาด ซึ่งจะทำให้คุณเสียเวลาและยังล้มเหลวอีกต่างหาก ค้นหาตลาดที่ตรวจสอบแล้วและแสดงให้คุณเห็นว่ามันจะทำให้คุณสามารถขายได้มาก
อย่า....
อย่าสร้างผลิตภัณฑ์และหวังว่าผู้คนจะเริ่มมองหามัน
ให้.... ให้สร้างผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนเขากำลังมองหาอยู่
แนวคิดที่ 2 บนชั้นวางหนังสือ
เป็นวิธีหาหัวข้อเรื่องอีกวิธี ด้วยการค้นหาหัวข้อเรื่องจากร้านหนังสือใหญ่ๆ ให้ดูที่ชั้นวางแมกกาซีนและมองหาหัวเรื่องต่างๆ มักจะเป็นเช่น Clickbank และแมกกาซีนของตลาดเฉพาะพวก Toy Train, Baseball card การตกปลา ซึ่งเป็นหัวข้อเรื่องที่ทำเพื่อตลาดเป้าหมายเฉพาะ
ถ้าหัวข้อเรื่องไหน คุณสนใจ บันทึกไว้ บางครั้งคุณสามารถเข้าไปดูว่า บทความเป็นอย่างไรและมันอาจจะเป็นแนวคิดแก่คุณในหัวเรื่องนั้นๆ
แมกกาซีนยังเป็นหนทางให้คุณค้นคว้าเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผลิตผลงาน อ่านจากหลายๆเล่ม มันจะช่วยให้คุณสามารถสรุปข้อมูล บวกกับพื้นฐานความรู้ของคุณ ซึ่งจะทำให้คุณสร้างผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น
eBook เล่มแรกของผม เป็นเรื่องเกี่ยวกับการลดน้ำหนักที่มีคำแนะนำที่ดีมาก แต่ก็ไม่ได้แตกต่างจากคนอื่นๆมากนัก เพราะเป็นข้อมูลที่ผมสรุปมาจากแมกกาซีนและใส่คำพูดและประสบการณ์ของผมลงไป แต่ผมมีรูปภาพประกอบ
แนวคิดที่ 3 จาก Amazon.com
วิธีการค้นหา หัวข้อเรื่องจาก Amazon ซึ่งเป็นร้านหนังสือออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ให้คุณ Browse ไปดู The best seller’s Section ที่ไม่ใช่นวนิยาย ให้ดูว่า หนังสือชนิดใดที่กำลังขายดีอยู่ จำไว้...ถ้าเราสามารถค้นพบหัวข้อเรื่องที่ผู้คนต้องการ มันจะทำให้เราง่ายขึ้นอย่างมากมาย ที่จะขายสินค้าให้เขาเหล่านั้น คุณสามารถเข้าไปดูข้อมูลหนังสือขายดีที่ www.amazon.com/gp/bestsellers/book ไปดูว่า อะไรที่ผู้อ่านสนใจ สนใจเรื่องอะไร เพราะผู้คนเหล่านี้จะเป็นลูกค้าของคุณ
ทบทวนรายการและมองหาหัวข้อเรื่องที่พบและวิธีการที่คุณจะเข้าไปเล่นในตลาดที่มีศักยภาพนั้น หนังสือแต่ละเล่ม เสนอข้อเสนอให้กับตลาดและแสดงถึงสิ่งที่ลูกค้า Amazon ชอบ (แม้กระทั่ง..สิ่งที่ไม่ชอบ)
ผู้คนจะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังสือหรือหัวข้อเรื่องที่มีข้อด้อย และสิ่งนี้ก็คือ ผู้คนกำลังบอกเราถึง สิ่งที่พวกเขาต้องการแต่ยังไม่ได้รับการสนองตอบ ถ้าผู้คนถามหา สิ่งที่ควรต้องทำ ก็คือ นำสนองให้กับเขา นี่คือ ที่ที่ซึ่งจะขายได้ นี้คือ หนทางที่เราสามารถสอดแทรกเข้าไปได้
บันทึกหัวข้อเรื่องและเขียนข้อคิดของคุณไว้ ในขณะเดียวกัน ให้คุณจดรายชื่อหนังสือไว้ด้วย เมื่อคุณตัดสินใจที่จะใช้หัวเรื่องนี้ คุณก็สามารถใช้ข้อมูลบางส่วนจากหนังสือ ในการช่วยเขียนผลิตภัณฑ์ของคุณ
แนวคิดที่ 4 สิ่งที่คุณและเพื่อนๆของคุณสนใจ
สิ่งที่คุณชอบ คุณชอบอ่านเกี่ยวกับอะไร เพื่อนคุณชอบงานอดิเรกหรือสนใจเรื่องอะไร รวมแม้กระทั่งคนรอบข้างคุณ
ไม่เป็นไร...ถ้ายังคิดไม่ออก เพราะในขั้นตอนต่อไป ผมจะสอนวิธีค้นหาว่า เขาต้องการอะไร ถ้าพบเห็นเช่นนั้น..ก็เป็นการง่ายสำหรับคุณ
วิธีการ ให้คุณบันทึกทุกสิ่งที่คุณสนใจ คุณอาจจะแปลกใจที่พบว่า เขาเหล่านั้นก็สนใจเช่นกัน ในทางอุดมคติก็คือ เลือกหัวข้อเรื่องที่คุณมีความรู้เป็นอย่างดี
เพื่อให้ได้สิ่งที่คุณเชี่ยวชาญ ให้คุณตอบคำถามเหล่านี้
1. What อะไรที่คุณทำในวันหยุดสุดสัปดาห์
2. คุณทำอะไรในตอนเย็นหรือเวลาว่าง ถ้าคุณดู ทีวี คุณดูรายการอะไร
3. คุณอ่านหนังสืออะไร
4. คุณเป็นสมาชิกหนังสืออะไร
5. คุณกับเพื่อนพูดคุยเกี่ยวกับอะไร
6. คุณเก่งเรื่องอะไร
7. เพื่อนๆคุณ บอกว่าคุณมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องอะไร
8. อะไรคือสิ่งที่คุณรู้สึกสนุกกับมัน
ให้คุณเข้าไปที่คำถามและบันทึกหัวข้อเรื่องที่เข้ามาในความคิดให้ได้มากที่สุด เมื่อเสร็จแล้ว ให้คุณกลับไปอ่านคำตอบ ถ้าคุณให้คำตอบที่ซ้ำกัน หัวข้อเรื่องนั้น อาจ..เป็นหัวข้อเรื่องที่ดี
ยกตัวอย่าง....กรณีของผม ผมคิดคำนึงถึงเรื่องรถและบ่อยๆครั้งที่ชื่นชอบเข้าไปใน Car forum ผมเองเคยมี WVGTI V.6 Hatchback ที่สร้างขึ้นระหว่าง 1993-1998 ที่รู้จักกันดีคือ The Mark III ผมรู้...เพราะผมสนใจมันและใช้เวลาไปมัน ผมรู้เรื่องเกี่ยวกับมันเป็นอย่างดี
เมื่อค้นหาใน Google ด้วยคำ “WV forum” พบว่า เป็นเรื่องที่กำลัง popular มีผลการค้นหาถึง 1,830,000 ผลลัพท์ จากประสบการณ์ของผม เว็บไซต์แรกของผลการค้นหา นั้น popular ที่สุด และพบว่ามีการโพสถึง 3 ล้านครั้ง
ผมรู้เรื่องดี เกี่ยวกับการบำรุงรักษามัน เพราะผมจำเป็นต้องดูแลรักษามันและยังพบว่า ใน Forum มีคำถามเกี่ยวกับการบำรุงรักษา
ผมมีตลาด....ผู้คนสนใจ VW’s
ผมมีหัวข้อเรื่อง...ที่อาจเป็น Niche Topic คือ การบำรุงรักษา...
ผมมีความรู้ว่า...จริงๆแล้วผู้คนต้องการได้อะไรจาก Forum
ดังนั้น ผมมีโอกาสที่จะเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับเขา...โดยผมได้เพิ่ม Video การบำรุงรักษาไว้ใน eBook ของผม
คุณคงเห็นแล้วว่า ผมค้นหาและพบตลาดที่มีศักยภาพ ผมสามารถที่จะสร้าง Info Product เพื่อแก้ปัญหาให้กับตลาดที่กำลังต้องการอยู่...แสดงให้เขาเห็นวิธีการแก้ปัญหาด้วย Video การบำรุงรักษา มันเป็นความคิดที่ดีด้วยหลายเหตผล..ผู้คนชอบเพราะเสมือนกับเขาได้ลงมือทำด้วยตนเองและรายละเอียดบางอย่างก็ไม่สามารถเขียนเป็นตัวหนังสือได้ นอกจากนั้น เขายังสามารถดูซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้อีกด้วย เหตผลอื่นๆ ....คุณกำลังทำงานให้กับคน..ที่มีความแตกต่างกันและต้องการความประหยัด
พูดถึงคำว่า “ประหยัด” อาจจะดูไม่ดีในทางการตลาดนัก แต่เป็นการประหยัดที่เป็นคุณให้กับคุณ เพราะถ้าเขาเหล่านั้นไปจ้างร้านหรือ Dealer เขาจะต้องจ่ายมากกว่า $1000 แต่ถ้าเขาทำเอง จะอยู่ที่ $300-400 รวมค่า eBook $30-40 พวกเขายังประหยัดได้มากกว่า $500 ผมจึงคิดว่า Info Product ของผมจะ work เพราะลูกค้ายอมรับตั้งแต่ต้นจนจบ
อีกครั้ง...ผมรู้ว่า...ผมได้ค้นคว้าและรู้จักตลาดแล้ว
สิ่งนี้...เป็นสิ่ง Info Product ที่เกิดจากการพัฒนาปรับปรุงจากความต้องการของตลาด คุณต้องเข้าใจและรู้ความต้องการของตลาดและมีวิธีการที่จะค้นหาให้พบถึงความต้องการและความจำเป็นของตลาด
เมื่อมีใครใน Forum พูดถึงสิ่งในทำนองว่า “ผมหวังว่า ผมอยากจะ ผมคิดว่า ...” ใน Forum ที่อยู่ใน Topic ของคุณ คุณ...อย่า..เพียงแค่ฟังเฉยๆ บันทึกไว้ ทำไมหรือ! เพราะสิ่งเหล่านี้ บอกถึง.....แนวโน้มที่คุณสามารถจะได้รับ หัวข้อเรื่อง ที่สามารถสร้างใหม่ ไม่มีอะไรจะมอบโอกาสให้คุณ ไปมากกว่า การสร้าง Info Product ที่สามารถเป็นคำตอบให้กับคำถามของคนเหล่านั้น
สิ่งแรกที่ผมจะค้นหาผลิตภัณฑ์ที่จะขาย ผมจะมุ่งไปที่ Clickbank เป็นอันดับแรก (www.marketplace.clickbank.net) ที่นี่คุณจะพบรายชื่อเว็บไซต์ที่ขาย ผลิตภัณฑ์อิเล็คทรอนิก, software Program, video ….และ eBook ซึ่งเป็นสินค้าที่คุณสามารถสร้างเองได้ [Clickbank เป็น Affiliate Network Provider ที่ขายสินค้าจับต้องไม่ได้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก]
ในหน้าเว็บ Clickbank จะแบ่งหมวด (Categories) ออกดังนี้
Business to Business (B2B)
…………………………
ถ้าคุณคลิกเข้าไปดูข้างในของแต่ละหมวด ยังแบ่งย่อยลงเพื่อให้สะดวกมากขึ้น
สิ่งที่ผมทำ ก็คือ Click ไปที่หมวดที่ผมสนใจ เช่น Health & Fitness แล้วผมจะเข้าไปจดชื่อและชนิดของเว็บไซต์ที่อยู่ในอันดับแรกๆ
ตัวอย่าง เมื่อผมเข้าไปในเว็บไซต์อันดับ 1 ของ Health & Fitness ซึ่งก็คือ Burn the Fat, feed the Muscle และเมื่อตาม Link ไป พบว่าเป็น เว็บไซต์เกี่ยวกับ weigh-loss เมื่อผมเข้าไปที่เว็บไซต์อันดับ 2 คือ “Fatloss4Idiots”-(Idiot-proof Diet) เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับ weigh-loss เช่นกัน
เมื่อเข้าไปในเว็บอันดับถัดๆไป เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับ สิว โรควิตกกังวล นอนไม่หลับฯ ซึ่งถ้า...ผมพอมีความรู้หรือมีความสนใจเกี่ยวกับมัน มันจะต้องเป็นหนึ่งใน Info Products ของผมอย่างแน่นอน
ผมแนะนำให้คุณเขียน หัวข้อเรื่อง อย่างน้อย 3 หัวข้อเรื่อง ที่ได้จากการเปิดเข้าไปใน Clickbank marketplace ขอให้จำไว้อย่างหนึ่ง Clickbank จัดเรียงอันดับเว็บไซต์ตามลำดับการสร้างรายได้
ฉะนั้นเว็บไซต์ล่างๆ ต้องไม่ใช่เว็บไซต์ที่มีหัวข้อเรื่องที่ดีแน่นอน ให้เลือกเฉพาะ Top20 ของแต่ละหมวดก็พอ แน่นอน..เป็นตลาดที่กำลังมีผู้คนซื้อขายกันอยู่จริง
คงจำได้..ผมให้คุณค้นหา ตลาดที่จรวจสอบแล้ว ว่าทรงคุณค่าและให้คุณเพ็งเล็งไปที่นั่น อย่าสร้างผลิตภัณฑ์แล้วจึงค่อยหาตลาด ซึ่งจะทำให้คุณเสียเวลาและยังล้มเหลวอีกต่างหาก ค้นหาตลาดที่ตรวจสอบแล้วและแสดงให้คุณเห็นว่ามันจะทำให้คุณสามารถขายได้มาก
อย่า....
อย่าสร้างผลิตภัณฑ์และหวังว่าผู้คนจะเริ่มมองหามัน
ให้.... ให้สร้างผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนเขากำลังมองหาอยู่
แนวคิดที่ 2 บนชั้นวางหนังสือ
เป็นวิธีหาหัวข้อเรื่องอีกวิธี ด้วยการค้นหาหัวข้อเรื่องจากร้านหนังสือใหญ่ๆ ให้ดูที่ชั้นวางแมกกาซีนและมองหาหัวเรื่องต่างๆ มักจะเป็นเช่น Clickbank และแมกกาซีนของตลาดเฉพาะพวก Toy Train, Baseball card การตกปลา ซึ่งเป็นหัวข้อเรื่องที่ทำเพื่อตลาดเป้าหมายเฉพาะ
ถ้าหัวข้อเรื่องไหน คุณสนใจ บันทึกไว้ บางครั้งคุณสามารถเข้าไปดูว่า บทความเป็นอย่างไรและมันอาจจะเป็นแนวคิดแก่คุณในหัวเรื่องนั้นๆ
แมกกาซีนยังเป็นหนทางให้คุณค้นคว้าเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผลิตผลงาน อ่านจากหลายๆเล่ม มันจะช่วยให้คุณสามารถสรุปข้อมูล บวกกับพื้นฐานความรู้ของคุณ ซึ่งจะทำให้คุณสร้างผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น
eBook เล่มแรกของผม เป็นเรื่องเกี่ยวกับการลดน้ำหนักที่มีคำแนะนำที่ดีมาก แต่ก็ไม่ได้แตกต่างจากคนอื่นๆมากนัก เพราะเป็นข้อมูลที่ผมสรุปมาจากแมกกาซีนและใส่คำพูดและประสบการณ์ของผมลงไป แต่ผมมีรูปภาพประกอบ
แนวคิดที่ 3 จาก Amazon.com
วิธีการค้นหา หัวข้อเรื่องจาก Amazon ซึ่งเป็นร้านหนังสือออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ให้คุณ Browse ไปดู The best seller’s Section ที่ไม่ใช่นวนิยาย ให้ดูว่า หนังสือชนิดใดที่กำลังขายดีอยู่ จำไว้...ถ้าเราสามารถค้นพบหัวข้อเรื่องที่ผู้คนต้องการ มันจะทำให้เราง่ายขึ้นอย่างมากมาย ที่จะขายสินค้าให้เขาเหล่านั้น คุณสามารถเข้าไปดูข้อมูลหนังสือขายดีที่ www.amazon.com/gp/bestsellers/book ไปดูว่า อะไรที่ผู้อ่านสนใจ สนใจเรื่องอะไร เพราะผู้คนเหล่านี้จะเป็นลูกค้าของคุณ
ทบทวนรายการและมองหาหัวข้อเรื่องที่พบและวิธีการที่คุณจะเข้าไปเล่นในตลาดที่มีศักยภาพนั้น หนังสือแต่ละเล่ม เสนอข้อเสนอให้กับตลาดและแสดงถึงสิ่งที่ลูกค้า Amazon ชอบ (แม้กระทั่ง..สิ่งที่ไม่ชอบ)
ผู้คนจะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังสือหรือหัวข้อเรื่องที่มีข้อด้อย และสิ่งนี้ก็คือ ผู้คนกำลังบอกเราถึง สิ่งที่พวกเขาต้องการแต่ยังไม่ได้รับการสนองตอบ ถ้าผู้คนถามหา สิ่งที่ควรต้องทำ ก็คือ นำสนองให้กับเขา นี่คือ ที่ที่ซึ่งจะขายได้ นี้คือ หนทางที่เราสามารถสอดแทรกเข้าไปได้
บันทึกหัวข้อเรื่องและเขียนข้อคิดของคุณไว้ ในขณะเดียวกัน ให้คุณจดรายชื่อหนังสือไว้ด้วย เมื่อคุณตัดสินใจที่จะใช้หัวเรื่องนี้ คุณก็สามารถใช้ข้อมูลบางส่วนจากหนังสือ ในการช่วยเขียนผลิตภัณฑ์ของคุณ
แนวคิดที่ 4 สิ่งที่คุณและเพื่อนๆของคุณสนใจ
สิ่งที่คุณชอบ คุณชอบอ่านเกี่ยวกับอะไร เพื่อนคุณชอบงานอดิเรกหรือสนใจเรื่องอะไร รวมแม้กระทั่งคนรอบข้างคุณ
ไม่เป็นไร...ถ้ายังคิดไม่ออก เพราะในขั้นตอนต่อไป ผมจะสอนวิธีค้นหาว่า เขาต้องการอะไร ถ้าพบเห็นเช่นนั้น..ก็เป็นการง่ายสำหรับคุณ
วิธีการ ให้คุณบันทึกทุกสิ่งที่คุณสนใจ คุณอาจจะแปลกใจที่พบว่า เขาเหล่านั้นก็สนใจเช่นกัน ในทางอุดมคติก็คือ เลือกหัวข้อเรื่องที่คุณมีความรู้เป็นอย่างดี
เพื่อให้ได้สิ่งที่คุณเชี่ยวชาญ ให้คุณตอบคำถามเหล่านี้
1. What อะไรที่คุณทำในวันหยุดสุดสัปดาห์
2. คุณทำอะไรในตอนเย็นหรือเวลาว่าง ถ้าคุณดู ทีวี คุณดูรายการอะไร
3. คุณอ่านหนังสืออะไร
4. คุณเป็นสมาชิกหนังสืออะไร
5. คุณกับเพื่อนพูดคุยเกี่ยวกับอะไร
6. คุณเก่งเรื่องอะไร
7. เพื่อนๆคุณ บอกว่าคุณมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องอะไร
8. อะไรคือสิ่งที่คุณรู้สึกสนุกกับมัน
ให้คุณเข้าไปที่คำถามและบันทึกหัวข้อเรื่องที่เข้ามาในความคิดให้ได้มากที่สุด เมื่อเสร็จแล้ว ให้คุณกลับไปอ่านคำตอบ ถ้าคุณให้คำตอบที่ซ้ำกัน หัวข้อเรื่องนั้น อาจ..เป็นหัวข้อเรื่องที่ดี
ยกตัวอย่าง....กรณีของผม ผมคิดคำนึงถึงเรื่องรถและบ่อยๆครั้งที่ชื่นชอบเข้าไปใน Car forum ผมเองเคยมี WVGTI V.6 Hatchback ที่สร้างขึ้นระหว่าง 1993-1998 ที่รู้จักกันดีคือ The Mark III ผมรู้...เพราะผมสนใจมันและใช้เวลาไปมัน ผมรู้เรื่องเกี่ยวกับมันเป็นอย่างดี
เมื่อค้นหาใน Google ด้วยคำ “WV forum” พบว่า เป็นเรื่องที่กำลัง popular มีผลการค้นหาถึง 1,830,000 ผลลัพท์ จากประสบการณ์ของผม เว็บไซต์แรกของผลการค้นหา นั้น popular ที่สุด และพบว่ามีการโพสถึง 3 ล้านครั้ง
ผมรู้เรื่องดี เกี่ยวกับการบำรุงรักษามัน เพราะผมจำเป็นต้องดูแลรักษามันและยังพบว่า ใน Forum มีคำถามเกี่ยวกับการบำรุงรักษา
ผมมีตลาด....ผู้คนสนใจ VW’s
ผมมีหัวข้อเรื่อง...ที่อาจเป็น Niche Topic คือ การบำรุงรักษา...
ผมมีความรู้ว่า...จริงๆแล้วผู้คนต้องการได้อะไรจาก Forum
ดังนั้น ผมมีโอกาสที่จะเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับเขา...โดยผมได้เพิ่ม Video การบำรุงรักษาไว้ใน eBook ของผม
คุณคงเห็นแล้วว่า ผมค้นหาและพบตลาดที่มีศักยภาพ ผมสามารถที่จะสร้าง Info Product เพื่อแก้ปัญหาให้กับตลาดที่กำลังต้องการอยู่...แสดงให้เขาเห็นวิธีการแก้ปัญหาด้วย Video การบำรุงรักษา มันเป็นความคิดที่ดีด้วยหลายเหตผล..ผู้คนชอบเพราะเสมือนกับเขาได้ลงมือทำด้วยตนเองและรายละเอียดบางอย่างก็ไม่สามารถเขียนเป็นตัวหนังสือได้ นอกจากนั้น เขายังสามารถดูซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้อีกด้วย เหตผลอื่นๆ ....คุณกำลังทำงานให้กับคน..ที่มีความแตกต่างกันและต้องการความประหยัด
พูดถึงคำว่า “ประหยัด” อาจจะดูไม่ดีในทางการตลาดนัก แต่เป็นการประหยัดที่เป็นคุณให้กับคุณ เพราะถ้าเขาเหล่านั้นไปจ้างร้านหรือ Dealer เขาจะต้องจ่ายมากกว่า $1000 แต่ถ้าเขาทำเอง จะอยู่ที่ $300-400 รวมค่า eBook $30-40 พวกเขายังประหยัดได้มากกว่า $500 ผมจึงคิดว่า Info Product ของผมจะ work เพราะลูกค้ายอมรับตั้งแต่ต้นจนจบ
อีกครั้ง...ผมรู้ว่า...ผมได้ค้นคว้าและรู้จักตลาดแล้ว
สิ่งนี้...เป็นสิ่ง Info Product ที่เกิดจากการพัฒนาปรับปรุงจากความต้องการของตลาด คุณต้องเข้าใจและรู้ความต้องการของตลาดและมีวิธีการที่จะค้นหาให้พบถึงความต้องการและความจำเป็นของตลาด
เมื่อมีใครใน Forum พูดถึงสิ่งในทำนองว่า “ผมหวังว่า ผมอยากจะ ผมคิดว่า ...” ใน Forum ที่อยู่ใน Topic ของคุณ คุณ...อย่า..เพียงแค่ฟังเฉยๆ บันทึกไว้ ทำไมหรือ! เพราะสิ่งเหล่านี้ บอกถึง.....แนวโน้มที่คุณสามารถจะได้รับ หัวข้อเรื่อง ที่สามารถสร้างใหม่ ไม่มีอะไรจะมอบโอกาสให้คุณ ไปมากกว่า การสร้าง Info Product ที่สามารถเป็นคำตอบให้กับคำถามของคนเหล่านั้น
Monday, July 14, 2008
เบิกทางสร้างความคิด Idea Make Money ต่อ 1
วิธีค้นหาตลาดเฉพาะ
How To Find a Niche Market
ขั้นแรก คุณจะต้องหาหัวเรื่องเฉพาะ (Niche Topic) ที่คุณจะทำสร้าง eBook แล้วอะไร คือ Niche Topic! หรือ อะไรคือ ตลาดเฉพาะ (Niche Market)! ในที่นี้ ตลาดเฉพาะ ซึ่งก็คือ กลุ่มของคนที่กำลังค้นหาทางอินเตอร์เน็ต เพื่อหาวิธีแก้ปัญหาสำหรับปัญหาเฉพาะสำหรับพวกเขา แต่ไม่สามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการ อย่างที่ต้องการจริงๆ
ง่ายๆ ก็คือ ตลาดเฉพาะ เป็น รากฐานของความสำเร็จของธุรกิจออนไลน์ ถ้าคุณธุรกิจของคุณอยู่ในตลาดเฉพาะที่มั่งคงแล้วละก็ ธุรกิจของคุณก็ย่อมเจริญไปได้อีกนาน แต่ถ้าไม่มี คงไม่มีอะไรที่จะมาการันตีได้ว่าธุรกิจของคุณจะสร้างรายได้ให้กับคุณ
ขั้นที่ 1 การระดมสมองหา Niche Topics
Step#1 Brain Storming Niche Topics
การตัดสินใจว่าจะขายอะไรดี เป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดที่จะบอกได้ว่าธุรกิจออนไลน์ของคุณจะประสบความสำเร็จหรือไม่
ผู้คนส่วนใหญ่ก้าวผิดไปในขั้นตอนนี้ แม้กระทั่งผมเองในครั้งแรกที่ผมเข้าสู่ตลาดออนไลน์ ก็พยายามที่จะหรือติดตามสิ่งที่เราสนใจอยู่ ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายอะไร และแล้ว เขาเหล่านั้นก็สร้างผลงานบนพื้นฐานสิ่งนั้นที่เขาคิดพบว่าน่าสนใจ
ยกตัวอย่าง คนๆหนึ่งรักการเล่นคริกเกต ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเขียน eBook สอนวิธีและแผนการเล่นเพื่อเป็นนักคริกเกตที่เก่ง เขาใช้เวลา 1 เดือนจึงแล้วเสร็จ 1 – 2 อาทิตย์ ไม่มีใครซื้อ e Book เขาพยายามและค้นหาว่า ทำไมยังขายไม่ได้และที่ที่ไหนที่เขาควรจะขายมัน จนเวลาผ่านไป ก็ยังไม่มีใครซื้อ eBook เขาเลย eBook เล่มนี้เขียนได้ดีและสอนเทคนิคที่ดีที่สุดในโลก สอนให้คนกลายเป็นนักคริกเกตที่สามารถ และทำไมคนในโลกนี้จำไม่ซื้อ eBook ของเขา เหตุผลก็คือ ไม่มีใครเขามีความสนใจที่จะเป็นนักคริกเกตที่เก่งกล้า
นี่สำคัญ คุณจะต้องไม่สร้างผลิตภัณฑ์และค้นหาคนเพื่อขายผลิตภัณฑ์ แต่คุณต้องค้นหาคนที่คุณจะขายให้พบก่อน แล้วจึงจะสร้างสรรผลิตภัณฑ์ที่สนองความต้องการเฉพาะหรือเติมเต็มความต้องการที่มีนั้น ดูเหมือนง่าย ๆ แต่เป็นสิ่งที่น้อยคนที่จะตระหนัก
เพียงคุณเรียนใน Course นี้ ผมต้องการให้คุณเรียนรู้ข้อผิดพลาดนี้ เสียเวลาไปอย่างมากมายกับการสร้างผลงานข้อมูลและค้นพบว่าจริง ๆ แล้วไม่มีคนต้องการมัน ผู้คนส่วนใหญ่มักล้มเลิกทันทีที่ล้นเหลวครั้งแรก สาเหตุที่ล้มเหลวก็เพราะเข้าเริ่มต้นผิด อย่าคิดว่าคุณจะไม่เหมือนคนอื่น ๆ อย่าคาดว่าผลงานคุณจะขายได้ ถ้าคุณจะเริ่มต้นแบบผิด ๆ นั้น
ผมยกตัวอย่างนี้ขึ้น เพราะต้องการชี้ให้เห็นว่า ผู้เขียนล้มเหลวเพราะ สร้างสรรค์ด้วยวิธีย้อนกลับ แต่ไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะมันล้มไม่เป็นท่า ขอให้จำใส่ใจถึงคำพูดของผม “วิจัยก่อน สร้างผลิตภัณฑ์ทีหลัง”
ในวรรคนี้ ผมกำลังจะสอนคุณถึงการระดมความคิดเพื่อสร้างหัวข้อเรื่อง เมื่อจบวรรคนี้ คุณจะมีบัญชีรายชื่อ หัวข้อเรื่อง โดยที่คุณไม่ต้องสนใจว่า คุณจะขายให้ใครหรือขายอย่างไร หัวข้อเรื่องเหล่านี้ มาจากการสร้างได้ง่ายๆ และมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างเงินจริง เพื่อที่คุณจะได้นำไปสร้าง Info Products ต่อไป
เรามาเริ่มต้นกันเลย
ให้คุณเตรียมปากกาและกระดาษสำหรับเขียนหัวข้อเรื่อง ในขณะที่คุณเดินไปตามขั้นตอนนี้
The Key To Finding Topics
กุญแจของการสืบค้นหาหัวข้อเรื่อง
ถ้าคุณกำลังค้นหาความคิดที่เป็นหนึ่งหรือแนวคิดที่สามารถสร้างกำไร คุณกำลังเริ่มต้นผิดพลาด
“Don’t try reinventing the wheel”
“อย่าพยายามคิดสร้างสรรค์อะไรมาทดแทนล้อรูปกลม”
ล้อวงกลมเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และเป็นจริงอย่างยิ่งที่คุณไม่สามารถหารูปทรงไหนมาทดแทนแล้วดีกว่ารูปวงกลมได้ รูปทรงกลมและยังมีประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย คุณพิจารณาดูว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะสร้างอะไรมาแทนล้อรถรูปวงกลมและยังต้องเปลี่ยนแปลงความเชื่อของคนอื่นๆให้เห็นดีไปกับคุณ
ในที่นี้...ไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีเสียเลย มีไอเดียใหม่ๆมากมายที่มีคนสร้างเงินจากมัน แต่สำหรับเรา เราไม่ต้องการให้คุณต้องเริ่มต้นอย่างนั้น เรากำลังนำพาคุณไปในทิศทางที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงและมีความกดดันน้อยกว่า
ลืมไปได้เลย...กับการคิดค้นที่จะสร้างสิ่งใหม่ๆให้กับโลกนี้ เรามาทำสิ่งที่เป็นจริงที่เห็นกันอยู่ดีกว่า ผมต้องการให้คุณคิดถึงสิ่งที่กำลังบูมในตลาดปัจจุบันและอะไรที่กำลังขายดี เพื่อหาหัวข้อเรื่องที่เราจะใช้
ต่อไปนี้ เป็นกุญแจในการระดมสมองเพื่อคิดค้นหาแนวคิดของหัวข้อเรื่อง ย้ำเตือน คุณไม่ได้กำลังมองหาตลาดใหม่ แต่คุณกำลังมองหาตลาดที่ได้พิสูจน์แล้วว่า เป็นตลาดที่กำลังคึกคะนองอยู่ ซึ่งสามารถดูได้จากมีผู้ซื้อจริงๆที่ยังคงร้อนแรงในการค้นหาคำตอบ แหล่งข้อมูลและหัวข้อเรื่องนั้นๆอยู่ กลุ่มคนเหล่านี้เป็นกลุ่มคนที่คุณมุ่งหวัง และ ถ้าคุณใช้กระบวนการค้นหาที่เราคุณ เขาเหล่านี้ก็จะหาคุณและทำให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณสร้างเงินให้อย่างมหาศาล
ถ้า...ยังไม่กระจ่าง... ผมอยากให้คุณยึดมั่นในหลักการ คือ คุณจะไม่สร้างผลิตภัณฑ์และหวังว่า จะมีผู้คนเห็นมัน แต่...คุณจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนกำลังมองหามัน
ทั้งๆรู้ ว่าผู้คนส่วนใหญ่คิดถึงอะไร ตลาดที่ได้ผ่านการพิสูจน์และเมื่อคุณได้ทำตามกระบวนการ โอกาสก็พร้อมแล้วสำหรับคุณ ด้วยความพยายามครั้งหรือสองครั้ง เรื่องใหญ่ที่เป็นหัวข้อเรื่องที่สร้างกำไรก็มักจะไม่พ้นงาน Info Product (ที่พัฒนาหรือปรับปรุง) เกี่ยวกับการลดน้ำหนักและการสร้างความร่ำรวย ซึ่งเป็นหัวข้อที่นิยม...ผู้คนกำลังมองหามัน
เราไม่ได้พูดถึง “อย่าสร้างสรรค์” เพราะคุณต้องมีจินตนาการและฉีกออกจากคู่แข่งของคุณซึ่งคุณต้องค้นหาและทดสอบตลาด สิ่งที่คุณต้องจำไว้ให้จงดี ก็คือ จะใช้จินตนาการ เมื่อคุณได้ค้นพบหัวข้อเรื่องที่คุณจะทำแล้วเท่านั้น
How To Find a Niche Market
ขั้นแรก คุณจะต้องหาหัวเรื่องเฉพาะ (Niche Topic) ที่คุณจะทำสร้าง eBook แล้วอะไร คือ Niche Topic! หรือ อะไรคือ ตลาดเฉพาะ (Niche Market)! ในที่นี้ ตลาดเฉพาะ ซึ่งก็คือ กลุ่มของคนที่กำลังค้นหาทางอินเตอร์เน็ต เพื่อหาวิธีแก้ปัญหาสำหรับปัญหาเฉพาะสำหรับพวกเขา แต่ไม่สามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการ อย่างที่ต้องการจริงๆ
ง่ายๆ ก็คือ ตลาดเฉพาะ เป็น รากฐานของความสำเร็จของธุรกิจออนไลน์ ถ้าคุณธุรกิจของคุณอยู่ในตลาดเฉพาะที่มั่งคงแล้วละก็ ธุรกิจของคุณก็ย่อมเจริญไปได้อีกนาน แต่ถ้าไม่มี คงไม่มีอะไรที่จะมาการันตีได้ว่าธุรกิจของคุณจะสร้างรายได้ให้กับคุณ
ขั้นที่ 1 การระดมสมองหา Niche Topics
Step#1 Brain Storming Niche Topics
การตัดสินใจว่าจะขายอะไรดี เป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดที่จะบอกได้ว่าธุรกิจออนไลน์ของคุณจะประสบความสำเร็จหรือไม่
ผู้คนส่วนใหญ่ก้าวผิดไปในขั้นตอนนี้ แม้กระทั่งผมเองในครั้งแรกที่ผมเข้าสู่ตลาดออนไลน์ ก็พยายามที่จะหรือติดตามสิ่งที่เราสนใจอยู่ ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายอะไร และแล้ว เขาเหล่านั้นก็สร้างผลงานบนพื้นฐานสิ่งนั้นที่เขาคิดพบว่าน่าสนใจ
ยกตัวอย่าง คนๆหนึ่งรักการเล่นคริกเกต ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเขียน eBook สอนวิธีและแผนการเล่นเพื่อเป็นนักคริกเกตที่เก่ง เขาใช้เวลา 1 เดือนจึงแล้วเสร็จ 1 – 2 อาทิตย์ ไม่มีใครซื้อ e Book เขาพยายามและค้นหาว่า ทำไมยังขายไม่ได้และที่ที่ไหนที่เขาควรจะขายมัน จนเวลาผ่านไป ก็ยังไม่มีใครซื้อ eBook เขาเลย eBook เล่มนี้เขียนได้ดีและสอนเทคนิคที่ดีที่สุดในโลก สอนให้คนกลายเป็นนักคริกเกตที่สามารถ และทำไมคนในโลกนี้จำไม่ซื้อ eBook ของเขา เหตุผลก็คือ ไม่มีใครเขามีความสนใจที่จะเป็นนักคริกเกตที่เก่งกล้า
นี่สำคัญ คุณจะต้องไม่สร้างผลิตภัณฑ์และค้นหาคนเพื่อขายผลิตภัณฑ์ แต่คุณต้องค้นหาคนที่คุณจะขายให้พบก่อน แล้วจึงจะสร้างสรรผลิตภัณฑ์ที่สนองความต้องการเฉพาะหรือเติมเต็มความต้องการที่มีนั้น ดูเหมือนง่าย ๆ แต่เป็นสิ่งที่น้อยคนที่จะตระหนัก
เพียงคุณเรียนใน Course นี้ ผมต้องการให้คุณเรียนรู้ข้อผิดพลาดนี้ เสียเวลาไปอย่างมากมายกับการสร้างผลงานข้อมูลและค้นพบว่าจริง ๆ แล้วไม่มีคนต้องการมัน ผู้คนส่วนใหญ่มักล้มเลิกทันทีที่ล้นเหลวครั้งแรก สาเหตุที่ล้มเหลวก็เพราะเข้าเริ่มต้นผิด อย่าคิดว่าคุณจะไม่เหมือนคนอื่น ๆ อย่าคาดว่าผลงานคุณจะขายได้ ถ้าคุณจะเริ่มต้นแบบผิด ๆ นั้น
ผมยกตัวอย่างนี้ขึ้น เพราะต้องการชี้ให้เห็นว่า ผู้เขียนล้มเหลวเพราะ สร้างสรรค์ด้วยวิธีย้อนกลับ แต่ไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะมันล้มไม่เป็นท่า ขอให้จำใส่ใจถึงคำพูดของผม “วิจัยก่อน สร้างผลิตภัณฑ์ทีหลัง”
ในวรรคนี้ ผมกำลังจะสอนคุณถึงการระดมความคิดเพื่อสร้างหัวข้อเรื่อง เมื่อจบวรรคนี้ คุณจะมีบัญชีรายชื่อ หัวข้อเรื่อง โดยที่คุณไม่ต้องสนใจว่า คุณจะขายให้ใครหรือขายอย่างไร หัวข้อเรื่องเหล่านี้ มาจากการสร้างได้ง่ายๆ และมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างเงินจริง เพื่อที่คุณจะได้นำไปสร้าง Info Products ต่อไป
เรามาเริ่มต้นกันเลย
ให้คุณเตรียมปากกาและกระดาษสำหรับเขียนหัวข้อเรื่อง ในขณะที่คุณเดินไปตามขั้นตอนนี้
The Key To Finding Topics
กุญแจของการสืบค้นหาหัวข้อเรื่อง
ถ้าคุณกำลังค้นหาความคิดที่เป็นหนึ่งหรือแนวคิดที่สามารถสร้างกำไร คุณกำลังเริ่มต้นผิดพลาด
“Don’t try reinventing the wheel”
“อย่าพยายามคิดสร้างสรรค์อะไรมาทดแทนล้อรูปกลม”
ล้อวงกลมเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และเป็นจริงอย่างยิ่งที่คุณไม่สามารถหารูปทรงไหนมาทดแทนแล้วดีกว่ารูปวงกลมได้ รูปทรงกลมและยังมีประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย คุณพิจารณาดูว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะสร้างอะไรมาแทนล้อรถรูปวงกลมและยังต้องเปลี่ยนแปลงความเชื่อของคนอื่นๆให้เห็นดีไปกับคุณ
ในที่นี้...ไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีเสียเลย มีไอเดียใหม่ๆมากมายที่มีคนสร้างเงินจากมัน แต่สำหรับเรา เราไม่ต้องการให้คุณต้องเริ่มต้นอย่างนั้น เรากำลังนำพาคุณไปในทิศทางที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงและมีความกดดันน้อยกว่า
ลืมไปได้เลย...กับการคิดค้นที่จะสร้างสิ่งใหม่ๆให้กับโลกนี้ เรามาทำสิ่งที่เป็นจริงที่เห็นกันอยู่ดีกว่า ผมต้องการให้คุณคิดถึงสิ่งที่กำลังบูมในตลาดปัจจุบันและอะไรที่กำลังขายดี เพื่อหาหัวข้อเรื่องที่เราจะใช้
ต่อไปนี้ เป็นกุญแจในการระดมสมองเพื่อคิดค้นหาแนวคิดของหัวข้อเรื่อง ย้ำเตือน คุณไม่ได้กำลังมองหาตลาดใหม่ แต่คุณกำลังมองหาตลาดที่ได้พิสูจน์แล้วว่า เป็นตลาดที่กำลังคึกคะนองอยู่ ซึ่งสามารถดูได้จากมีผู้ซื้อจริงๆที่ยังคงร้อนแรงในการค้นหาคำตอบ แหล่งข้อมูลและหัวข้อเรื่องนั้นๆอยู่ กลุ่มคนเหล่านี้เป็นกลุ่มคนที่คุณมุ่งหวัง และ ถ้าคุณใช้กระบวนการค้นหาที่เราคุณ เขาเหล่านี้ก็จะหาคุณและทำให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณสร้างเงินให้อย่างมหาศาล
ถ้า...ยังไม่กระจ่าง... ผมอยากให้คุณยึดมั่นในหลักการ คือ คุณจะไม่สร้างผลิตภัณฑ์และหวังว่า จะมีผู้คนเห็นมัน แต่...คุณจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนกำลังมองหามัน
ทั้งๆรู้ ว่าผู้คนส่วนใหญ่คิดถึงอะไร ตลาดที่ได้ผ่านการพิสูจน์และเมื่อคุณได้ทำตามกระบวนการ โอกาสก็พร้อมแล้วสำหรับคุณ ด้วยความพยายามครั้งหรือสองครั้ง เรื่องใหญ่ที่เป็นหัวข้อเรื่องที่สร้างกำไรก็มักจะไม่พ้นงาน Info Product (ที่พัฒนาหรือปรับปรุง) เกี่ยวกับการลดน้ำหนักและการสร้างความร่ำรวย ซึ่งเป็นหัวข้อที่นิยม...ผู้คนกำลังมองหามัน
เราไม่ได้พูดถึง “อย่าสร้างสรรค์” เพราะคุณต้องมีจินตนาการและฉีกออกจากคู่แข่งของคุณซึ่งคุณต้องค้นหาและทดสอบตลาด สิ่งที่คุณต้องจำไว้ให้จงดี ก็คือ จะใช้จินตนาการ เมื่อคุณได้ค้นพบหัวข้อเรื่องที่คุณจะทำแล้วเท่านั้น
เบิกทางสร้างความคิด Idea Make Money ต่อ
Creating Value………การสร้างคุณค่า
อันดับแรก..และเป็นเหตุผลที่เห็นและเข้าใจได้ง่ายที่สุดในการสร้างสรรค์ Info Product ก็คือ กำไรอย่างมากมาย ด้วยความที่มี Margin สูง ไม่เหมือนกับงานบริการ Info Product Business มีต้นทุนการทำซ้ำต่ำหรือแทบไม่มีเลย หรือการผลิตทั่วๆไป เพราะไม่มีต้นทุนการผลิตที่ต้องมาหักออกจากกำไรอีกต่อไป
Info Product นั้น เมื่อคุณเขียนไว้สำหรับตลาดเฉพาะที่กำลังเป็นดาวรุ่งนั้น มันก็เหมือนกับเหมืองทองอย่างไรอย่างนั้น เพราะว่า Info Product ไม่มีต้นทุนอีกในการทำซ้ำ คุณจะทำกี่ครั้งก็ได้ พิมพ์ครั้งเดียว และเก็บไว้ขายได้ในอีกหลายๆปีข้างหน้า เว็บไซต์เล็กๆสำหรับการขาย ebook นั้น เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างเงิน เพื่อให้ธุรกิจข้อมูลของคุณดำเนินไปอย่างอัตโนมัติ สร้างรายได้ให้คุณทุกๆวัน โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องไปดูแลอีก
เชื่อมั่นได้เลย ว่า คุณสามารถ Launch ธุรกิจข้อมูลของคุณได้ด้วยเวลาเพียง 7 วัน ถ้าคุณเร่งรีบ หรือ 14 วัน ถ้าคุณยังเป็นมือใหม่ ด้วยเวลาที่ลงทุนไปเพียงเท่านี้รู้สึกว่าดูจะน้อยเกินไปกับผลลัพท์ที่เรากำลังพูดถึงเสียเหลือเกิน สมมุติว่า eBook คุณ ราคา $47 และคุณสามารถขายได้ 10 copies ต่อเดือน ภายใน 1 ปี คุณจะมีรายได้มากกว่า $ 5000 แต่ถ้าคุณมียอดขายเดือนละ 20 copies คุณจะมีรายได้ $11,000
ทั้งหมดนี้ จากการทำงานเพียง 7 - 14 วัน
เดี๋ยวก่อน ถ้ารวมกับสิ่งที่ผมกำลังจะสอนคุณเกี่ยวกับการทำตลาด eBook ของคุณ และคุณสามารถขายได้เพิ่มเป็น 50 copies ต่อเดือน (เป็นไปได้ที่จะมากกว่านี้มากในตลาดที่มีความต้องการสูง และนานตราบเท่าที่คุณมีระบบที่ดึงคนเข้ามาในเว็บของคุณ) คุณมีรายได้สบายๆ $28,000 ต่อปี
ถ้าคุณ Copy ระบบนี้และนำไปใช้กับตลาดอื่นๆอีก 12 ตลาด Info Product 12 อันนี้ สร้างรายได้ให้คุณในที่ต่างๆอีกหน่วยละ $20,000-$30,000 ต่อปี
ด้วยหลักการนี้ ผมเองก็ขี้เกียจที่จะคำนวณรายได้ของคุณ สิ่งสำคัญก็คือ นี่ไม่ใช่บางสิ่งบางอย่างที่ผมจินตนาการขึ้น มันเป็นไปได้ และ มีนักการตลาดออนไลน์ที่เก่งๆ หลายๆคนกำลังทำสิ่งนี้กันอยู่
คำถาม ก็คือ เมื่อไร? คุณจะใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์กับคุณบ้าง
อันดับสอง เหตุผลที่จะโฆษณา Info Product ก็คือ เพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดให้กับธุรกิจออนไลน์มีอยู่ในปัจจุบัน
สมมุติว่า คุณมี Blog หรือ Forum ที่เป็น Niche และกำลังดำเนินไปด้วยดี มีผู้อ่านจำนวนมาก ก็เป็นการง่ายที่คุณสามารถเขียน eBook เพื่อมุ่งไปยังตลาดของคุณ และยกสถานะของคุณเข้าสู่ ความเป็นตัวตนของคุณ (Authority) สำหรับตลาดเฉพาะนั้น และสร้างความเป็นสาธารณะ (generate Publicity) เพื่อขาย eBook ของคุณ
ในทำนองเดียวกันนี้ ถ้าคุณกำลังทำธุรกิจงานบริการ งานเขียนของคุณ (แม้ว่าจะเป็นเพียง eBook) ก็สามารถกระตุ้นและสร้างเครดิตให้กับคุณและส่งเสริมธุรกิจหลักของคุณ
ในอีกด้านหนึ่ง ถ้าคุณยังไม่สามารถสร้างเงินจากองค์ความรู้นั้นๆ แต่คุณยังคงใช้มันสำหรับเสริมธุรกิจของคุณ เพราะ ผู้ที่ซื้อหนังสือของคุณย่อมจะให้ความเชื่อถือในความคิดเห็นของคุณและกลับเข้ามาในเว็บไซต์ของคุณ มีอะไรมากกว่านั้น สมาชิกเว็บและลูกค้าของคุณจะเป็นคนที่ชักชวนคนอื่นๆเข้ามาในเว็บหรือหนังสือของคุณ ซึ่งจะเป็นตัวนำให้คุณมีรายได้เพิ่มขึ้น
การได้รับการยอมรับของ Info Product จากสาธารณะชน เป็นสิ่งที่มีค่า Info Product ที่ประสบความสำเร็จจะทำให้คุณเหมือนกับคุณเป็น ผู้เชี่ยวชาญในตลาดเฉพาะนั้นๆ สังคมให้เครดิตคุณและคุณก็สามารถใช้มันเพื่องานขายสินค้าหรือบริการของคุณ ข้อมูลและข้อมูลสำคัญที่มีคุณภาพนั้นมาจากผู้เชี่ยวชาญ มีคุณค่ามากกว่าที่เคยมีอยู่ในปัจจุบัน
Building Trust (การสร้างความจงรักภักดี)
ในความเป็นจริง คุณไม่มีเวลาอย่างมากมายสำหรับสร้างสรรค์ eBook และ Publish ได้ภายใน 7 วัน เพราะคุณเองก็ต้องทำงานประจำของคุณหรือต้องดูแลธุรกิจอื่นๆอยู่ คุณไม่สามารถปิดร้านหรือละทิ้งงานอื่นๆเพื่อมาทำงานสร้างสรรค์ eBook ได้ทั้งวันทั้งคืนแน่นอน
การทำงานด้วยเวลาเพียง 7 วัน เป็นงานง่ายๆ สำหรับมืออาชีพหรือนักเขียนที่มีประสบการณ์ แต่ผมคิดว่า เป็นไปได้ที่มือใหม่ก็สามารถทำได้ด้วยเวลาอันสั้น เช่นกัน
ผมอยากจะให้เวลาอย่างน้อย 14 วัน กับขบวนการสร้างสรรค์ผลงาน eBook เล่มแรก แต่ เมื่อคุณแล้วเสร็จและเริ่มขายมัน คุณก็ไม่ได้ทำงานมากขึ้นเลยกับการขาย 1 Copy หรือ 100 copies ทุกสิ่งทุกอย่างมันทำงานของมันเองอัตโนมัติในทันทีที่คุณได้เข้าสู่ระบบ
เมื่อจบบทเรียนที่ 1 ผมหวังว่าคุณจะมีความกระหายที่จะทราบถึงโอกาสที่จะสร้างเงินอย่างมากมายจากการสร้างสรรค์และการขาย Info Product ในรูปแบบของ EBook
ถ้าคุณยังรู้สึกเฉยๆ ซึ่งก็เป็นไปได้ ผมรู้จักผู้คนที่มีชื่อเสียงที่สร้างเงินมหาศาลถึง 6 หลัก ด้วยเวลาเพียง 1 ปี ถ้า...เขาเหล่านั้นทำได้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่คุณจะทำไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคุณได้รู้จัก BlinkWeb ซึ่งเรา..จะส่งโครงร่างของการสร้างเงินให้คุณเป็นเวลาติดต่อกัน 6 วันนับจากนี้ไป
ณ ตอนนี้ ผมแนะนำให้คุณ Login เข้าไปใน BlinkWeb Site designer และทำความเข้าใจกับมัน คุณจะแปลกใจยิ่งว่า ทำไมถึงง่ายอย่างนี้ คุณสามารถสร้างและออนไลน์ได้ด้วยเว็บไซต์ที่ไม่จำกัด... แน่นอนทุกอย่างฟรี....
อันดับแรก..และเป็นเหตุผลที่เห็นและเข้าใจได้ง่ายที่สุดในการสร้างสรรค์ Info Product ก็คือ กำไรอย่างมากมาย ด้วยความที่มี Margin สูง ไม่เหมือนกับงานบริการ Info Product Business มีต้นทุนการทำซ้ำต่ำหรือแทบไม่มีเลย หรือการผลิตทั่วๆไป เพราะไม่มีต้นทุนการผลิตที่ต้องมาหักออกจากกำไรอีกต่อไป
Info Product นั้น เมื่อคุณเขียนไว้สำหรับตลาดเฉพาะที่กำลังเป็นดาวรุ่งนั้น มันก็เหมือนกับเหมืองทองอย่างไรอย่างนั้น เพราะว่า Info Product ไม่มีต้นทุนอีกในการทำซ้ำ คุณจะทำกี่ครั้งก็ได้ พิมพ์ครั้งเดียว และเก็บไว้ขายได้ในอีกหลายๆปีข้างหน้า เว็บไซต์เล็กๆสำหรับการขาย ebook นั้น เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างเงิน เพื่อให้ธุรกิจข้อมูลของคุณดำเนินไปอย่างอัตโนมัติ สร้างรายได้ให้คุณทุกๆวัน โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องไปดูแลอีก
เชื่อมั่นได้เลย ว่า คุณสามารถ Launch ธุรกิจข้อมูลของคุณได้ด้วยเวลาเพียง 7 วัน ถ้าคุณเร่งรีบ หรือ 14 วัน ถ้าคุณยังเป็นมือใหม่ ด้วยเวลาที่ลงทุนไปเพียงเท่านี้รู้สึกว่าดูจะน้อยเกินไปกับผลลัพท์ที่เรากำลังพูดถึงเสียเหลือเกิน สมมุติว่า eBook คุณ ราคา $47 และคุณสามารถขายได้ 10 copies ต่อเดือน ภายใน 1 ปี คุณจะมีรายได้มากกว่า $ 5000 แต่ถ้าคุณมียอดขายเดือนละ 20 copies คุณจะมีรายได้ $11,000
ทั้งหมดนี้ จากการทำงานเพียง 7 - 14 วัน
เดี๋ยวก่อน ถ้ารวมกับสิ่งที่ผมกำลังจะสอนคุณเกี่ยวกับการทำตลาด eBook ของคุณ และคุณสามารถขายได้เพิ่มเป็น 50 copies ต่อเดือน (เป็นไปได้ที่จะมากกว่านี้มากในตลาดที่มีความต้องการสูง และนานตราบเท่าที่คุณมีระบบที่ดึงคนเข้ามาในเว็บของคุณ) คุณมีรายได้สบายๆ $28,000 ต่อปี
ถ้าคุณ Copy ระบบนี้และนำไปใช้กับตลาดอื่นๆอีก 12 ตลาด Info Product 12 อันนี้ สร้างรายได้ให้คุณในที่ต่างๆอีกหน่วยละ $20,000-$30,000 ต่อปี
ด้วยหลักการนี้ ผมเองก็ขี้เกียจที่จะคำนวณรายได้ของคุณ สิ่งสำคัญก็คือ นี่ไม่ใช่บางสิ่งบางอย่างที่ผมจินตนาการขึ้น มันเป็นไปได้ และ มีนักการตลาดออนไลน์ที่เก่งๆ หลายๆคนกำลังทำสิ่งนี้กันอยู่
คำถาม ก็คือ เมื่อไร? คุณจะใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์กับคุณบ้าง
อันดับสอง เหตุผลที่จะโฆษณา Info Product ก็คือ เพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดให้กับธุรกิจออนไลน์มีอยู่ในปัจจุบัน
สมมุติว่า คุณมี Blog หรือ Forum ที่เป็น Niche และกำลังดำเนินไปด้วยดี มีผู้อ่านจำนวนมาก ก็เป็นการง่ายที่คุณสามารถเขียน eBook เพื่อมุ่งไปยังตลาดของคุณ และยกสถานะของคุณเข้าสู่ ความเป็นตัวตนของคุณ (Authority) สำหรับตลาดเฉพาะนั้น และสร้างความเป็นสาธารณะ (generate Publicity) เพื่อขาย eBook ของคุณ
ในทำนองเดียวกันนี้ ถ้าคุณกำลังทำธุรกิจงานบริการ งานเขียนของคุณ (แม้ว่าจะเป็นเพียง eBook) ก็สามารถกระตุ้นและสร้างเครดิตให้กับคุณและส่งเสริมธุรกิจหลักของคุณ
ในอีกด้านหนึ่ง ถ้าคุณยังไม่สามารถสร้างเงินจากองค์ความรู้นั้นๆ แต่คุณยังคงใช้มันสำหรับเสริมธุรกิจของคุณ เพราะ ผู้ที่ซื้อหนังสือของคุณย่อมจะให้ความเชื่อถือในความคิดเห็นของคุณและกลับเข้ามาในเว็บไซต์ของคุณ มีอะไรมากกว่านั้น สมาชิกเว็บและลูกค้าของคุณจะเป็นคนที่ชักชวนคนอื่นๆเข้ามาในเว็บหรือหนังสือของคุณ ซึ่งจะเป็นตัวนำให้คุณมีรายได้เพิ่มขึ้น
การได้รับการยอมรับของ Info Product จากสาธารณะชน เป็นสิ่งที่มีค่า Info Product ที่ประสบความสำเร็จจะทำให้คุณเหมือนกับคุณเป็น ผู้เชี่ยวชาญในตลาดเฉพาะนั้นๆ สังคมให้เครดิตคุณและคุณก็สามารถใช้มันเพื่องานขายสินค้าหรือบริการของคุณ ข้อมูลและข้อมูลสำคัญที่มีคุณภาพนั้นมาจากผู้เชี่ยวชาญ มีคุณค่ามากกว่าที่เคยมีอยู่ในปัจจุบัน
Building Trust (การสร้างความจงรักภักดี)
ในความเป็นจริง คุณไม่มีเวลาอย่างมากมายสำหรับสร้างสรรค์ eBook และ Publish ได้ภายใน 7 วัน เพราะคุณเองก็ต้องทำงานประจำของคุณหรือต้องดูแลธุรกิจอื่นๆอยู่ คุณไม่สามารถปิดร้านหรือละทิ้งงานอื่นๆเพื่อมาทำงานสร้างสรรค์ eBook ได้ทั้งวันทั้งคืนแน่นอน
การทำงานด้วยเวลาเพียง 7 วัน เป็นงานง่ายๆ สำหรับมืออาชีพหรือนักเขียนที่มีประสบการณ์ แต่ผมคิดว่า เป็นไปได้ที่มือใหม่ก็สามารถทำได้ด้วยเวลาอันสั้น เช่นกัน
ผมอยากจะให้เวลาอย่างน้อย 14 วัน กับขบวนการสร้างสรรค์ผลงาน eBook เล่มแรก แต่ เมื่อคุณแล้วเสร็จและเริ่มขายมัน คุณก็ไม่ได้ทำงานมากขึ้นเลยกับการขาย 1 Copy หรือ 100 copies ทุกสิ่งทุกอย่างมันทำงานของมันเองอัตโนมัติในทันทีที่คุณได้เข้าสู่ระบบ
เมื่อจบบทเรียนที่ 1 ผมหวังว่าคุณจะมีความกระหายที่จะทราบถึงโอกาสที่จะสร้างเงินอย่างมากมายจากการสร้างสรรค์และการขาย Info Product ในรูปแบบของ EBook
ถ้าคุณยังรู้สึกเฉยๆ ซึ่งก็เป็นไปได้ ผมรู้จักผู้คนที่มีชื่อเสียงที่สร้างเงินมหาศาลถึง 6 หลัก ด้วยเวลาเพียง 1 ปี ถ้า...เขาเหล่านั้นทำได้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่คุณจะทำไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคุณได้รู้จัก BlinkWeb ซึ่งเรา..จะส่งโครงร่างของการสร้างเงินให้คุณเป็นเวลาติดต่อกัน 6 วันนับจากนี้ไป
ณ ตอนนี้ ผมแนะนำให้คุณ Login เข้าไปใน BlinkWeb Site designer และทำความเข้าใจกับมัน คุณจะแปลกใจยิ่งว่า ทำไมถึงง่ายอย่างนี้ คุณสามารถสร้างและออนไลน์ได้ด้วยเว็บไซต์ที่ไม่จำกัด... แน่นอนทุกอย่างฟรี....
เบิกทางสร้างความคิด Idea Make Money
เบิกทางสร้างความคิด Idea Make Money
ก่อนอื่นขอทำความตกลงกันก่อน ผมขอถามคำถาม
1. วันคืนที่ผ่านมานั้น เราได้สร้างองค์ความรู้ไว้เป็นบรรทัดฐานให้คน (ไทย) รุ่นหลังๆได้เรียนรู้เพียงใด
2. เราได้สร้างองค์ความรู้ “ที่เป็นระบบ” ไว้มากน้อยเพียงใด
3. บทความที่เขียนขึ้นมานี้ ไม่ได้มุ่งหวังให้เพื่อนๆ เขียน ebook
ระยะเวลา 46 ปีที่ผ่านมา ผมเพิ่งได้คิดว่า ผมเองไม่ได้สร้างองค์ความรู้ที่เป็นตรรกไว้เลย จนกระทั่งได้รับ email จาก Brad Callen (มีชื่อเสียงจากระบบการสร้างรายได้ทาง Online Network Marketing, eBook และอื่นๆ อีกมากมาย) ในฐานะที่ผมเป็น HyperVRE Gold Member ของ Matt Callen ซึ่ง Brad Callen ได้เสนอวิธีการสร้างรายได้ด้วย Information Products ซึ่งในที่นี้ก็คือ eBook นั่นเอง
ขอย้ำ... ผมไม่ได้ชักชวนให้เพื่อนๆเขียน eBook ถึงแม้ว่าจะสร้างรายได้มากมายและเป็นสายธารของรายได้ที่ต่อเนื่องให้กับ Freelance Editor เพื่อนๆ ลองจินตนาการดูเอาเองว่า ทำไม Clickbank.com จึงมั่งคั่งและเป็นยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของโลก ทั้งๆที่ขายสินค้าประเภท Download online ซึ่งเป็น สินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Asset) ซึ่ง eBook เป็นสินค้าหลักของ Clickbank (แม้แต่ anna kunikova ก็มีรายได้มหาศาลจากการเขียน eBook “วิธีการหาเจ้าสาวรัสเซีย”)
เพราะ... จะมีคนไทยสักกี่คนที่สามารถเขียนบทความภาษาอังกฤษได้อย่างอย่างใจจินตนาการ
แต่มีบางสิ่งบางอย่าง......ที่ Brad Callen อาจจุดประกายให้กับผม และ...ผม..หรือคุณ.....ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องเสียที มันมีประโยชน์มหาศาล ถ้า...คุณหรือผม...ค้นหา..จินตนาการพบโอกาส..หรือที่เรามักเรียกมันว่า “What”
ผมแปลบทความนี้ ด้วยวิธีจับสาระสำคัญและบางส่วนผมแปลตามตัวอักษร เพราะผมเกรงว่า ผมจะหลุดบางสิ่งบางอย่างไป เพื่อใช้สำหรับการเตือนใจและย้ำเตือนผม..หรือคุณ ในทุกๆครั้งที่กำลังหลงทาง
Welcome to BlinkWeb
คำนำเกี่ยวกับ Model ของธุรกิจออนไลน์ที่สมบูรณ์แบบ
Introduction To The Perfect Online Business Model
ก่อนอื่น ครอบครัว BlinkWeb ขอต้อนรับคุณ เราทราบดีถึงความวิตกกังวลของการสร้างเว็บไซต์อันแรกของทุกๆคน ต้องยอมรับความจริงที่ว่า ขบวนการสร้างเว็บในทุกวันนี้ คุณต้องมีความรู้เกี่ยวกับ Html, JAVA Script, php และสิ่งที่น่าเบื่ออีกมากมาย ถ้าไม่ทำอย่างนั้น คุณก็ต้องเสียเงินมากมายให้คนอื่นทำให้คุณ เพื่อที่คุณจะสามารถทำธุรกิจออนไลน์ของคุณ
พูดตามตรง ผู้คนส่วนใหญ่ (รวมทั้งผม) ไม่ต้องการทำงานแบบนั้น จึงมีคนมากมายล้มเลิกที่จะเข้าสู่ธุรกิจออนไลน์ (ถึง..แม้ว่า ..อาจจะสร้างเงินกับเขาได้มหาศาล)
ผม (Brad Callen) มีข่าวดี เพราะคุณเป็นครอบครัว BlonkWeb คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ได้อย่างมืออาชีพ ด้วยเวลาไม่กี่นาที โดยไม่ต้องรู้ภาษา Html, …เลย
สิ่งที่คุณต้องทำ เพียงแค่รู้วิธีการคลิกเม้าท์กับทักษะการใช้งานคีย์บอร์ด เท่านั้นเอง
ไม่เพียงแต่คุณจะสร้างเว็บได้เท่านั้น แต่ด้วยเวลา 6 วันนับจากนี้ไป ที่ผมจะสอนให้คุณ คุณจะทราบวิธีสร้างเงินจากเว็บของคุณได้อย่างไรด้วย เพราะเราทราบดีว่า เว็บไซต์ที่ไม่สามารถสร้างเงินให้นั้น เป็นการสูญเสียทั้งเงิน เวลาและสิ่งอื่นๆอีกมากมาย
ผมจะส่ง eMail ให้คุณวันละ 1 ฉบับ เป็นเวลา 6 วัน ในแต่ละวันและแต่ละ eMail จะมี Link ที่นำพาคุณไปยัง BlinkWeb ที่ที่ซึ่ง ผมจะสอนคุณไปทีละขั้ขที่ละตอน ไปจนถึงการออนไลน์และการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
เรามาเริ่มต้นกันด้วย บทเรียนที่ 1 “ทำไมงานขายผลิตภัณฑ์ข้อมูลจึงเป็นรูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด “
Lession 1 Why Selling Informatiom Product Is The Perfect Online Business Model
Model ของธุรกิจการขายข้อมูล (Info product business model) เป็นหนึ่งในในธุรกิจที่สร้างกำไรมากที่สุด ที่สามารถทำได้ในธุรกิจออนไลน์ เป็นธุรกิจที่ช่วยผู้คนให้สามารถแก้ปัญหาที่เขาไม่สามารถหาได้จากที่อื่นๆ และถ้าคุณมีข้อมูลสำรองอีกเป็นตัน และมันจะสร้างเงินให้คุณด้วยตัวมันเอง และคุณยังสามารถใช้ eBook เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างมูลค่าเพิ่ม (เช่น การโปรโมตงานบริการ) หรือขาย eBook นั้นๆ ด้วยขบวนการเดิมของมันเอง โดยที่ยังคงสร้างกำไรอย่างเป็นล่ำเป็นสันอยู่
หลุมพราง เกิดจาก การรับรู้ว่า จะเขียนเกี่ยวกับอะไร อะไรที่คนจะซื้อ นั่นคือ 3 สิ่งนี้ [อะไรที่ควรเขียน (What to write) เขียนอย่างไร (How to write) และ ต้องทำอะไรต่อไป (Then what)] บวกกับการทำชีวิตให้ยุ่งยากของผู้คนที่เข้าสู่ธุรกิจนี้ ความเป็นจริงอยู่ที่ว่า ผู้คน “ไม่รู้ว่าอะไรที่ควรจะทำ” (“don’t know what to do”) ที่เป็นสาเหตุใหญ่ที่สุดที่ ทำไมถึงมี ebooks จำนวนมากมายเหลือเกินในปัจจุบันนี้ และมีเพียงจำนวนน้อยนิดที่สร้างเงินให้จริงๆ
แล้วทำไมคุณจะต้องมาเชื่อฟังผมเรื่องนี้
Why should you listen to me on the topic of info product creation?
ไม่ใช่เพราะว่า ผมรู้วิธีการทำตลาดออนไลน์หรืออะไรก็ตาม ยังมีคนหลายๆคนที่เหมือนผม ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจออนไลน์ จากการขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซอฟท์แวร์ บริการ ไปจนถึงขายความคิด
ไม่ใช่ด้วยสาเหตุดังกล่าวแน่นอน เหตุผลที่คุณจะฟังผม ก็เพราะว่า ผมรู้อย่างแท้จริงถึงการเขียนหนังสือขึ้น โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องมีทุนเดิมเลย แตกต่างกันอย่างมากเลยที่เดียว ถ้าคุณเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จกับผลิตภัณฑ์ข้อมูลนี้อยู่แล้วกับผู้คนอีกมากมายที่ต้องหยุดความคิดที่จะเขียนหนังสือและขายมันในขณะที่ธุรกิจนี้กำลังทำรายได้อย่างมากมาย ด้วยเหตุที่พวกเขากลัว
กลัว... ความที่ไม่รู้ว่า จะเขียนเรื่องอะไรดี
กลัว...ความไม่รู้ว่า วิธีการเขียนหนังสือทำอย่างไร (โดยเฉพาะคนที่ไม่ใช่นักเขียนโดยธรรมชาติ)
(ในความเป็นจริง..ผมรู้จักความรู้สึกนั้นดี)
กลัว...ความไม่รู้ว่า วิธีการขายหนังสือทำอย่างไร
กลัว...ความไม่รู้ว่า อะไรบ้างที่ต้องทำต่อไป หลังจากได้สร้างสรรค์และออนไลน์ผลงานไปแล้ว
ผมรู้จักความรู้สึกต่างๆเหล่านั้นได้ดี ผมได้ผ่านพ้นความรู้สึกแบบนั้น เมื่อผมเข้าสู่การเขียน eBook เล่มแรกในปี 2002 ผมได้เรียนรู้ด้วยการทำเองและพบข้อผิดพลาดว่า เทคนิคอะไร คือ หัวใจ ของการลดวันเวลาสำหรับการเขียน eBook และผมได้เรียนรู้ว่าอะไรที่จะให้ผลดี... อะไรที่ไม่มีประโยชน์เลยเมื่อนำเข้าสู่ตลาดออนไลน์
เมื่อผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาด eBook ผมรู้ถึง วิธีการสร้าง Traffic ให้กับเว็บของผม
แล้ว...อะไรที่ทำให้คุณต้องรั้งรออยู่อีก? เป็นไปได้ ที่คุณคิดอาจจะคิดว่าธุรกิจนี้ไม่เหมาะกับคุณ
ก่อนอื่นขอทำความตกลงกันก่อน ผมขอถามคำถาม
1. วันคืนที่ผ่านมานั้น เราได้สร้างองค์ความรู้ไว้เป็นบรรทัดฐานให้คน (ไทย) รุ่นหลังๆได้เรียนรู้เพียงใด
2. เราได้สร้างองค์ความรู้ “ที่เป็นระบบ” ไว้มากน้อยเพียงใด
3. บทความที่เขียนขึ้นมานี้ ไม่ได้มุ่งหวังให้เพื่อนๆ เขียน ebook
ระยะเวลา 46 ปีที่ผ่านมา ผมเพิ่งได้คิดว่า ผมเองไม่ได้สร้างองค์ความรู้ที่เป็นตรรกไว้เลย จนกระทั่งได้รับ email จาก Brad Callen (มีชื่อเสียงจากระบบการสร้างรายได้ทาง Online Network Marketing, eBook และอื่นๆ อีกมากมาย) ในฐานะที่ผมเป็น HyperVRE Gold Member ของ Matt Callen ซึ่ง Brad Callen ได้เสนอวิธีการสร้างรายได้ด้วย Information Products ซึ่งในที่นี้ก็คือ eBook นั่นเอง
ขอย้ำ... ผมไม่ได้ชักชวนให้เพื่อนๆเขียน eBook ถึงแม้ว่าจะสร้างรายได้มากมายและเป็นสายธารของรายได้ที่ต่อเนื่องให้กับ Freelance Editor เพื่อนๆ ลองจินตนาการดูเอาเองว่า ทำไม Clickbank.com จึงมั่งคั่งและเป็นยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของโลก ทั้งๆที่ขายสินค้าประเภท Download online ซึ่งเป็น สินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Asset) ซึ่ง eBook เป็นสินค้าหลักของ Clickbank (แม้แต่ anna kunikova ก็มีรายได้มหาศาลจากการเขียน eBook “วิธีการหาเจ้าสาวรัสเซีย”)
เพราะ... จะมีคนไทยสักกี่คนที่สามารถเขียนบทความภาษาอังกฤษได้อย่างอย่างใจจินตนาการ
แต่มีบางสิ่งบางอย่าง......ที่ Brad Callen อาจจุดประกายให้กับผม และ...ผม..หรือคุณ.....ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องเสียที มันมีประโยชน์มหาศาล ถ้า...คุณหรือผม...ค้นหา..จินตนาการพบโอกาส..หรือที่เรามักเรียกมันว่า “What”
ผมแปลบทความนี้ ด้วยวิธีจับสาระสำคัญและบางส่วนผมแปลตามตัวอักษร เพราะผมเกรงว่า ผมจะหลุดบางสิ่งบางอย่างไป เพื่อใช้สำหรับการเตือนใจและย้ำเตือนผม..หรือคุณ ในทุกๆครั้งที่กำลังหลงทาง
Welcome to BlinkWeb
คำนำเกี่ยวกับ Model ของธุรกิจออนไลน์ที่สมบูรณ์แบบ
Introduction To The Perfect Online Business Model
ก่อนอื่น ครอบครัว BlinkWeb ขอต้อนรับคุณ เราทราบดีถึงความวิตกกังวลของการสร้างเว็บไซต์อันแรกของทุกๆคน ต้องยอมรับความจริงที่ว่า ขบวนการสร้างเว็บในทุกวันนี้ คุณต้องมีความรู้เกี่ยวกับ Html, JAVA Script, php และสิ่งที่น่าเบื่ออีกมากมาย ถ้าไม่ทำอย่างนั้น คุณก็ต้องเสียเงินมากมายให้คนอื่นทำให้คุณ เพื่อที่คุณจะสามารถทำธุรกิจออนไลน์ของคุณ
พูดตามตรง ผู้คนส่วนใหญ่ (รวมทั้งผม) ไม่ต้องการทำงานแบบนั้น จึงมีคนมากมายล้มเลิกที่จะเข้าสู่ธุรกิจออนไลน์ (ถึง..แม้ว่า ..อาจจะสร้างเงินกับเขาได้มหาศาล)
ผม (Brad Callen) มีข่าวดี เพราะคุณเป็นครอบครัว BlonkWeb คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ได้อย่างมืออาชีพ ด้วยเวลาไม่กี่นาที โดยไม่ต้องรู้ภาษา Html, …เลย
สิ่งที่คุณต้องทำ เพียงแค่รู้วิธีการคลิกเม้าท์กับทักษะการใช้งานคีย์บอร์ด เท่านั้นเอง
ไม่เพียงแต่คุณจะสร้างเว็บได้เท่านั้น แต่ด้วยเวลา 6 วันนับจากนี้ไป ที่ผมจะสอนให้คุณ คุณจะทราบวิธีสร้างเงินจากเว็บของคุณได้อย่างไรด้วย เพราะเราทราบดีว่า เว็บไซต์ที่ไม่สามารถสร้างเงินให้นั้น เป็นการสูญเสียทั้งเงิน เวลาและสิ่งอื่นๆอีกมากมาย
ผมจะส่ง eMail ให้คุณวันละ 1 ฉบับ เป็นเวลา 6 วัน ในแต่ละวันและแต่ละ eMail จะมี Link ที่นำพาคุณไปยัง BlinkWeb ที่ที่ซึ่ง ผมจะสอนคุณไปทีละขั้ขที่ละตอน ไปจนถึงการออนไลน์และการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
เรามาเริ่มต้นกันด้วย บทเรียนที่ 1 “ทำไมงานขายผลิตภัณฑ์ข้อมูลจึงเป็นรูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด “
Lession 1 Why Selling Informatiom Product Is The Perfect Online Business Model
Model ของธุรกิจการขายข้อมูล (Info product business model) เป็นหนึ่งในในธุรกิจที่สร้างกำไรมากที่สุด ที่สามารถทำได้ในธุรกิจออนไลน์ เป็นธุรกิจที่ช่วยผู้คนให้สามารถแก้ปัญหาที่เขาไม่สามารถหาได้จากที่อื่นๆ และถ้าคุณมีข้อมูลสำรองอีกเป็นตัน และมันจะสร้างเงินให้คุณด้วยตัวมันเอง และคุณยังสามารถใช้ eBook เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างมูลค่าเพิ่ม (เช่น การโปรโมตงานบริการ) หรือขาย eBook นั้นๆ ด้วยขบวนการเดิมของมันเอง โดยที่ยังคงสร้างกำไรอย่างเป็นล่ำเป็นสันอยู่
หลุมพราง เกิดจาก การรับรู้ว่า จะเขียนเกี่ยวกับอะไร อะไรที่คนจะซื้อ นั่นคือ 3 สิ่งนี้ [อะไรที่ควรเขียน (What to write) เขียนอย่างไร (How to write) และ ต้องทำอะไรต่อไป (Then what)] บวกกับการทำชีวิตให้ยุ่งยากของผู้คนที่เข้าสู่ธุรกิจนี้ ความเป็นจริงอยู่ที่ว่า ผู้คน “ไม่รู้ว่าอะไรที่ควรจะทำ” (“don’t know what to do”) ที่เป็นสาเหตุใหญ่ที่สุดที่ ทำไมถึงมี ebooks จำนวนมากมายเหลือเกินในปัจจุบันนี้ และมีเพียงจำนวนน้อยนิดที่สร้างเงินให้จริงๆ
แล้วทำไมคุณจะต้องมาเชื่อฟังผมเรื่องนี้
Why should you listen to me on the topic of info product creation?
ไม่ใช่เพราะว่า ผมรู้วิธีการทำตลาดออนไลน์หรืออะไรก็ตาม ยังมีคนหลายๆคนที่เหมือนผม ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจออนไลน์ จากการขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซอฟท์แวร์ บริการ ไปจนถึงขายความคิด
ไม่ใช่ด้วยสาเหตุดังกล่าวแน่นอน เหตุผลที่คุณจะฟังผม ก็เพราะว่า ผมรู้อย่างแท้จริงถึงการเขียนหนังสือขึ้น โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องมีทุนเดิมเลย แตกต่างกันอย่างมากเลยที่เดียว ถ้าคุณเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จกับผลิตภัณฑ์ข้อมูลนี้อยู่แล้วกับผู้คนอีกมากมายที่ต้องหยุดความคิดที่จะเขียนหนังสือและขายมันในขณะที่ธุรกิจนี้กำลังทำรายได้อย่างมากมาย ด้วยเหตุที่พวกเขากลัว
กลัว... ความที่ไม่รู้ว่า จะเขียนเรื่องอะไรดี
กลัว...ความไม่รู้ว่า วิธีการเขียนหนังสือทำอย่างไร (โดยเฉพาะคนที่ไม่ใช่นักเขียนโดยธรรมชาติ)
(ในความเป็นจริง..ผมรู้จักความรู้สึกนั้นดี)
กลัว...ความไม่รู้ว่า วิธีการขายหนังสือทำอย่างไร
กลัว...ความไม่รู้ว่า อะไรบ้างที่ต้องทำต่อไป หลังจากได้สร้างสรรค์และออนไลน์ผลงานไปแล้ว
ผมรู้จักความรู้สึกต่างๆเหล่านั้นได้ดี ผมได้ผ่านพ้นความรู้สึกแบบนั้น เมื่อผมเข้าสู่การเขียน eBook เล่มแรกในปี 2002 ผมได้เรียนรู้ด้วยการทำเองและพบข้อผิดพลาดว่า เทคนิคอะไร คือ หัวใจ ของการลดวันเวลาสำหรับการเขียน eBook และผมได้เรียนรู้ว่าอะไรที่จะให้ผลดี... อะไรที่ไม่มีประโยชน์เลยเมื่อนำเข้าสู่ตลาดออนไลน์
เมื่อผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาด eBook ผมรู้ถึง วิธีการสร้าง Traffic ให้กับเว็บของผม
แล้ว...อะไรที่ทำให้คุณต้องรั้งรออยู่อีก? เป็นไปได้ ที่คุณคิดอาจจะคิดว่าธุรกิจนี้ไม่เหมาะกับคุณ
ป้ายกำกับ:
Idea Make Money,
เขียน eBook,
เบิกทางสร้างความคิด,
แปล Blinkweb
Thursday, March 13, 2008
สร้างเว็บสวยด้วย Affiliate Program
สร้างเว็บสวยด้วย Affiliate Program
........ห่างหายไปนานพอควร ต้องขออภัยเพื่อนๆ และสมาชิก.
เริ่มต้นกันเลย ผมแนะนำหนังสือดีๆสักเล่ม “เที่ยวไป รวยไป กับ Travel Affiliate Program” ของคุณ ทรงชัย ณะอำภัย แห่ง Se-ED พิมพ์ครั้งแรก มกราคม ๒๕๕๑ เป็นหนังสือที่ เราๆชาวฝันไปกับ Internet money Maker ควรอย่างยิ่งที่จะมี
และ...ทำให้ผมต้องย้อนกลับมาเขียนบทความนี้ (ซ้ำ) “มาสร้างเว็บไทยๆกันดีกว่า” เพราะอะไรฤๅ ...ผมพบว่า การที่จะทำหน้าตาเว็บเพ็จให้สวยงามนั้น ทำได้ยาก ปัญหามากมาย เช่น จะไปหารูปดีๆจากที่ไหน ฉันก็ไม่ถนัดการตบแต่งภาพเสียด้วย ที่สำคัญกินพื้นที่มากและยังทำให้การ Browse ของเว็บเราช้าด้วย เสียหายใหญ่หลวง ปัญหาอันนี้ ทำให้เราๆหลายคน ถอยครับถอยไปตั้งหลักกันใหม่..ก็มี
โดยปกติ การใส่รูปภาพในแต่ละเว็บเพ็จ เขาไม่ใส่กันหลายๆภาพหรอกครับ เพราะกินพื้นที่และทำให้ Browse ช้า เป็นที่รังเกลียดของนักท่องเว็บทั้งหลาย ในหนึ่งเว็บเพ็จ เขาจะใส่รูปภาพที่เด่นและดีที่สุดและเป็น Best Attraction เท่านั้น (ลองใช้ Fire Fox ในการตบแต่งและลด ขนาดภาพ ง่ายมากนะ จะบอกให้)
ถ้าจะบ้าแล้วละ อีตา C. singha (ใครๆเขาก็อยากมีรูปให้ลูกค้า & Visitors มากๆ)
ยังครับ ผมยังไม่เพี้ยน (จริงๆ) เป็นเช่นนั้นจริงๆ คุณจะมีรูปภาพมากๆและต้องมีขนาดเล็กๆ ได้...ก็แต่เฉพาะใน Homepage เท่านั้น นอกจากนั้นแล้ว คุณจะมีรูปภาพก็เฉพาะที่เป็น The Best Attractive Images เท่านั้น ไม่เช่นนั้นแล้ว เวลา Browse ที Visitors เขารอไม้หรอก ไอ้ประเภทต้องรอเกิน 10 วินาที เขาจะตัดสินใจไป ดูเว็บอื่นๆ แทน (คุณเองก็..เป็นเช่นนั้น)
ฉะนั้น ในหนึ่งเว็บเพ็จ ก็ควรมีเนื้อหาสาระในเรื่องนั้นๆ โดยเฉพาะ เพื่อให้คุณสามารถควบคุม Keyword Density มากพอ ที่จะส่งเสริมการทำการโปรโมทไซต์ของคุณ (SEO)
แล้วเว็บเพ็จของฉัน จะสวยได้อย่างไร!
ตัว...ข้าพเจ้าใช้เทคนิคสร้างเว็บสวยด้วย Affiliate Program และ Google AdSense (Google AdSense และ Google referrals) มานานแล้ว (อิอิ...แต่ไม่ได้ทำเรื่องการท่องเที่ยว) โดย Google referrals นั้น มีโฆษณาที่เป็นรูปภาพมากพอควร (เพิ่มขึ้นทุกๆวัน) ลองเข้าไปดูนะครับ (ต้องสมัครเป็นสมาชิก Gmail มี เว็บไซต์หรือ Blog สำหรับสมัครเป็น Web Publisher ก่อน จึงจะใช้งานได้
...คนทั่วๆไปจะไม่ทราบเลย เพราะเขายังไม่ได้ลงมือทำ... ให้เราเลือก Ads สวยๆ และเหมาะสมกับเนื้อหาและ Layout ของเรา (1 referral ads/ 1 page only)
ถ้าคุณยังไม่มี Gmail ก็ยังไม่สามารถสมัครเป็น Google Publisher ได้ หรือ ถ้าคุณยังไม่มีเว็บหรือ Blog คุณก็ไม่สามารถสมัครเป็น Publishers ของ Affiliate Program ใดๆ เช่นกัน
ถ้าคุณคิดว่า คุณจะเริ่มต้น (อย่าเพิ่งลงทุนใดๆ จนกว่า เราจะมีความพร้อม) ในที่นี้ เป็นฟรีทั้งหมด สิ่งที่ต้องทำ
1. สมัครใช้ Gmail
2. สมัคร Blogger
3. สมัคร เว็บฟรี Igetweb หรือ เว็บนอกฟรีๆ
4. สมัคร เป็น Google Publisher
5. คุณมี Blog คุณ.....ก็...สามารถใช้ Blog ของคุณสมัครเป็น Partner ของ Affiliate Program ได้แล้ว
6. คุณพร้อมจะเรียนรู้ได้ ด้วยตนเองและคำแนะนำของเพื่อนๆ รวมทั้ง ข้าพเจ้าก็ยินดีสนับสนุน
ขอเวลาหายใจหน่อยนะ แล้วจะมาเล่าถึง ตอนสำคัญ เพราะคุณๆ บางคน...อาจจะยังไม่พร้อม
****ถ้าคุณตั้งใจจริง****
****เตรียมตามขั้นตอน 1-6 ให้พร้อม เพราะตอนต่อไปใน วัน 2 วันนี้ ผมจะแนะนำการสร้างเว็บ(ภาษาไทย) สวยด้วย Affiliate Program ****
C. Singha http://www.onniche.com
........ห่างหายไปนานพอควร ต้องขออภัยเพื่อนๆ และสมาชิก.
เริ่มต้นกันเลย ผมแนะนำหนังสือดีๆสักเล่ม “เที่ยวไป รวยไป กับ Travel Affiliate Program” ของคุณ ทรงชัย ณะอำภัย แห่ง Se-ED พิมพ์ครั้งแรก มกราคม ๒๕๕๑ เป็นหนังสือที่ เราๆชาวฝันไปกับ Internet money Maker ควรอย่างยิ่งที่จะมี
และ...ทำให้ผมต้องย้อนกลับมาเขียนบทความนี้ (ซ้ำ) “มาสร้างเว็บไทยๆกันดีกว่า” เพราะอะไรฤๅ ...ผมพบว่า การที่จะทำหน้าตาเว็บเพ็จให้สวยงามนั้น ทำได้ยาก ปัญหามากมาย เช่น จะไปหารูปดีๆจากที่ไหน ฉันก็ไม่ถนัดการตบแต่งภาพเสียด้วย ที่สำคัญกินพื้นที่มากและยังทำให้การ Browse ของเว็บเราช้าด้วย เสียหายใหญ่หลวง ปัญหาอันนี้ ทำให้เราๆหลายคน ถอยครับถอยไปตั้งหลักกันใหม่..ก็มี
โดยปกติ การใส่รูปภาพในแต่ละเว็บเพ็จ เขาไม่ใส่กันหลายๆภาพหรอกครับ เพราะกินพื้นที่และทำให้ Browse ช้า เป็นที่รังเกลียดของนักท่องเว็บทั้งหลาย ในหนึ่งเว็บเพ็จ เขาจะใส่รูปภาพที่เด่นและดีที่สุดและเป็น Best Attraction เท่านั้น (ลองใช้ Fire Fox ในการตบแต่งและลด ขนาดภาพ ง่ายมากนะ จะบอกให้)
ถ้าจะบ้าแล้วละ อีตา C. singha (ใครๆเขาก็อยากมีรูปให้ลูกค้า & Visitors มากๆ)
ยังครับ ผมยังไม่เพี้ยน (จริงๆ) เป็นเช่นนั้นจริงๆ คุณจะมีรูปภาพมากๆและต้องมีขนาดเล็กๆ ได้...ก็แต่เฉพาะใน Homepage เท่านั้น นอกจากนั้นแล้ว คุณจะมีรูปภาพก็เฉพาะที่เป็น The Best Attractive Images เท่านั้น ไม่เช่นนั้นแล้ว เวลา Browse ที Visitors เขารอไม้หรอก ไอ้ประเภทต้องรอเกิน 10 วินาที เขาจะตัดสินใจไป ดูเว็บอื่นๆ แทน (คุณเองก็..เป็นเช่นนั้น)
ฉะนั้น ในหนึ่งเว็บเพ็จ ก็ควรมีเนื้อหาสาระในเรื่องนั้นๆ โดยเฉพาะ เพื่อให้คุณสามารถควบคุม Keyword Density มากพอ ที่จะส่งเสริมการทำการโปรโมทไซต์ของคุณ (SEO)
แล้วเว็บเพ็จของฉัน จะสวยได้อย่างไร!
ตัว...ข้าพเจ้าใช้เทคนิคสร้างเว็บสวยด้วย Affiliate Program และ Google AdSense (Google AdSense และ Google referrals) มานานแล้ว (อิอิ...แต่ไม่ได้ทำเรื่องการท่องเที่ยว) โดย Google referrals นั้น มีโฆษณาที่เป็นรูปภาพมากพอควร (เพิ่มขึ้นทุกๆวัน) ลองเข้าไปดูนะครับ (ต้องสมัครเป็นสมาชิก Gmail มี เว็บไซต์หรือ Blog สำหรับสมัครเป็น Web Publisher ก่อน จึงจะใช้งานได้
...คนทั่วๆไปจะไม่ทราบเลย เพราะเขายังไม่ได้ลงมือทำ... ให้เราเลือก Ads สวยๆ และเหมาะสมกับเนื้อหาและ Layout ของเรา (1 referral ads/ 1 page only)
ถ้าคุณยังไม่มี Gmail ก็ยังไม่สามารถสมัครเป็น Google Publisher ได้ หรือ ถ้าคุณยังไม่มีเว็บหรือ Blog คุณก็ไม่สามารถสมัครเป็น Publishers ของ Affiliate Program ใดๆ เช่นกัน
ถ้าคุณคิดว่า คุณจะเริ่มต้น (อย่าเพิ่งลงทุนใดๆ จนกว่า เราจะมีความพร้อม) ในที่นี้ เป็นฟรีทั้งหมด สิ่งที่ต้องทำ
1. สมัครใช้ Gmail
2. สมัคร Blogger
3. สมัคร เว็บฟรี Igetweb หรือ เว็บนอกฟรีๆ
4. สมัคร เป็น Google Publisher
5. คุณมี Blog คุณ.....ก็...สามารถใช้ Blog ของคุณสมัครเป็น Partner ของ Affiliate Program ได้แล้ว
6. คุณพร้อมจะเรียนรู้ได้ ด้วยตนเองและคำแนะนำของเพื่อนๆ รวมทั้ง ข้าพเจ้าก็ยินดีสนับสนุน
ขอเวลาหายใจหน่อยนะ แล้วจะมาเล่าถึง ตอนสำคัญ เพราะคุณๆ บางคน...อาจจะยังไม่พร้อม
****ถ้าคุณตั้งใจจริง****
****เตรียมตามขั้นตอน 1-6 ให้พร้อม เพราะตอนต่อไปใน วัน 2 วันนี้ ผมจะแนะนำการสร้างเว็บ(ภาษาไทย) สวยด้วย Affiliate Program ****
C. Singha http://www.onniche.com
Subscribe to:
Posts (Atom)